วันนี้ (8 สิงหาคม) ที่พรรคพลังประชารัฐ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดพะเยา ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงโอกาสในการร่วมรัฐบาล ภายหลังพรรคภูมิใจไทยตอบรับคำเชิญพรรคเพื่อไทยว่า ต้องดู พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งท่าทีตอนนี้ก็เหมือนเดิม คืออยู่นิ่งๆ อย่าให้ข่าวอะไรมาก เดี๋ยวจะผิดเพี้ยนไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า โอกาสของพรรคพลังประชารัฐมีมากขึ้นหรือไม่ ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่า หลังจากที่เราได้หารือที่พรรคเพื่อไทยแล้ว ก็ยังไม่ได้รับการติดต่ออะไร แต่ถามว่าเรามีโอกาสหรือไม่ ก็อยู่ที่พรรคเพื่อไทยเขาจะเชิญ เราก็ต้องอยู่นิ่งๆ ตามมารยาท เราก็ไม่รู้ว่าหลังจากพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทยได้ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลแล้ว จากนี้จะมีพรรคอื่นๆ เพิ่มเติมหรือไม่ แต่ตนเชื่อว่าเขาคงประสานไปเบื้องต้นแล้ว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นการวัดพลัง 212 เสียงของพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจไทยกับพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่า ตนว่าไม่ใช่การวัดพลัง ได้ยินแต่ข่าว เพราะข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ตนอยู่กับหัวหน้าพรรคทุกวัน ไม่เคยมีประเด็นเรื่องการวัดพลังหรือวัดกำลังใดๆ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวพรรคพลังประชารัฐถูกพรรคเพื่อไทยหลอกหรือไม่ ทำให้ดีลไม่ลงตัว ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่มีประเด็นนี้ มีแต่กระแสวิเคราะห์ข่าว ข้อเท็จจริงตนและหัวหน้าพรรคคุยกันตลอด ยืนยันไม่มีประเด็นนี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคพลังประชารัฐและพรรคภูมิใจไทยมีสัญญาใจไปไหนไปกันใช่หรือไม่ ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่า เป็นเรื่องเอกภาพของแต่ละพรรค เรื่องของพรรคภูมิใจไทยก็เป็นเรื่องของพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐก็อยู่ในที่ตั้งมาโดยตลอด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การจะร่วมรัฐบาลต้องไปทั้งพรรคใช่หรือไม่ ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่า หัวหน้าให้ตนแจ้งกับสื่อมาโดยตลอดว่า พรรคเราเป็นสถาบันการเมือง เราต้องมีจุดยืนชัดเจนอย่างที่เคยประกาศไปแล้ว ทุกอย่างยังเหมือนเดิม
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยแถลงว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะไม่มี 2 ลุงแน่นอน การที่มี สส. บางส่วนจะไปสมทบเป็นไปได้หรือไม่ ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่า หากเราจะทำอะไรต้องเป็นมติคณะกรรมการบริหารพรรค และ สส. ให้เป็นเอกฉันท์ว่าจะเดินไปในทิศทางใด ไม่ใช่กลุ่มไหนคิดจะไปก็ไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การที่พรรคเพื่อไทยไม่เอาลุง พรรคพลังประชารัฐจะทำอย่างไร จะไม่ไปร่วมแน่นอนใช่หรือไม่ ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่า เรื่องลุงไม่ใช่สาระสำคัญ สาระสำคัญสำหรับพรรคพลังประชารัฐคือเรื่องของบ้านเมือง เราจะร่วมแก้วิกฤตได้อย่างไร โดยเฉพาะเวลานี้ที่มีปัญหาสารพัดทั้งเหนือ ใต้ ประชาชนต่างมีปัญหาประสบความเดือดร้อน สิ่งสำคัญที่สุดคือเร่งจัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด ตนเชื่อว่านักการเมืองทุกคน โดยเฉพาะ สส. ทุกคนต่างมีแนวคิดไปในทิศทางเดียวกัน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า เงื่อนไขเรื่องลุงเป็นปัญหาที่พรรคเพื่อไทยต้องแก้เองใช่หรือไม่ ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่า ตนว่าเวลานี้พรรคเพื่อไทยประกาศตั้งรัฐบาลสมานฉันท์ ก็ชัดเจนว่าพรรคเพื่อไทยต้องหาทางออกเองว่าจะแก้อย่างไร เราในฐานะเสียงข้างน้อยเราควรจะอยู่นิ่งๆ ตามมารยาท
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากเพื่อไทยยื่นเงื่อนไขให้ พล.อ. ประวิตรถอยออกไป พรรคพลังประชารัฐรับได้หรือไม่ ร.อ. ธรรมนัสยืนยันว่า พล.อ. ประวิตรยังเป็นหัวหน้าพรรคอยู่
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ. ประวิตรพร้อมถูกเสนอชื่อชิงนายกฯ ใช่หรือไม่ ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่า โดยมารยาทตอนนี้เป็นไปไม่ได้ เราเป็นพรรคเสียงข้างน้อย
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หาก เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ไม่สามารถไปต่อได้ เพราะท่าที สว. ไม่ตอบรับ ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่า อย่าลืมว่าพรรคเพื่อไทยมีแคนดิเดตนายกฯ 3 คน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การเลื่อนกำหนดกลับประเทศไทยของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกมองว่าเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยและพรรคพลังประชารัฐไม่ลงตัว ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน คนละเรื่อง คนละประเด็น ซึ่งการเลื่อนเดินทางกลับเป็นเรื่องส่วนตัว ตนไม่ทราบ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคพลังประชารัฐได้หารือกับพรรคร่วมรัฐบาลเดิมหรือไม่ ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่า เป็นเรื่องเอกภาพของแต่ละพรรค นอกจากเรื่องของสภาในการโหวตวาระสำคัญเราก็จะคุยกันบ้าง แต่เรื่องการจัดตั้งรัฐบาลเราไม่มีการคุยกัน