วันนี้ (11 ก.ย.) ที่รัฐสภาเกียกกาย พล.ต.ท. วิศณุ ม่วงแพรสี ส.ส. บัญชีรายชื่อพรรคเสรีรวมไทย ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาถาม พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงกรณี ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถูกสื่อต่างประเทศขุดคุ้ยว่าเคยถูกคดีค้ายาเสพติดและติดคุก 4 ปีที่ออสเตรเลีย
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ ร.อ. ธรรมนัส มาตอบกระทู้แทน
พล.ต.ท. วิศณุ กล่าวว่า ย้อนกลับไปในอดีต ตนเคยเป็นผู้กำกับ 1 กองปราบปราม เมื่อปี 2541-2542 ตอนนั้นตนกับ ร.อ. ธรรมนัส พบกันครั้งหนึ่งแล้ว โดยตนเป็นพนักงานสอบสวน ซึ่ง ร.อ. ธรรมนัส ตกเป็นผู้ต้องหาคดีร่วมกันฆ่า ดร.พูลสวัสดิ์ จิราภรณ์ ซึ่งตอนนั้นตนรับผิดชอบสำนวนการสอบสวน ในที่สุดฝ่ายสอบสวนมีความเห็นเสนอสำนวนไปยังอัยการสั่งฟ้อง
ทั้งนี้ ร.อ. ธรรมนัส เคยให้สัมภาษณ์ว่า เคยถูกควบคุมตัว 3 ปี 1 เดือน ก่อนศาลยกฟ้อง และอัยการไม่อุทธรณ์
ขณะที่เรื่องคดียาเสพติด ประเด็นคือในช่วงก่อนการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีการทักท้วงเรื่องคุณสมบัติของ ร.อ. ธรรมนัส
โดย ร.อ. ธรรมนัส ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่นำเข้าออสเตรเลีย แต่เป็นเรื่องตกกระไดพลอยโจนไปอยู่ในสถานที่ซึ่งคนร้ายทำความผิด และถูกจำคุกแค่ 8 เดือน จากนั้นได้ใช้ชีวิตอยู่ที่ออสเตรเลีย
แต่มาวันนี้หนังสือพิมพ์ออสเตรเลียได้ออกรายงานพิเศษ เรื่อง จากผู้ร้ายสู่รัฐมนตรี ซึ่งเป็นประเด็นว่า ได้มีการติดต่อให้ ร.อ. ธรรมนัส ชี้แจง ซึ่ง ร.อ. ธรรมนัส ก็ชี้แจงในประเด็นเดิมเหมือนที่เคยชี้แจงกับสื่อมวลชน
แต่ในรายงานของหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ ปรากฏทั้งคำรับสารภาพและคำให้การของตำรวจ และปรากฏถึงการดักฟังทางโทรศัพท์ ซึ่งมีรายละเอียดมากมายยืนยันว่า ร.อ. ธรรมนัส เกี่ยวข้องแน่นอน
ตนจึงขอถามนายกรัฐมนตรีว่า ในช่วงตั้งคณะรัฐมนตรี มีข่าวว่ารัฐมนตรีคนนี้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดมานานแล้ว และมีผู้ทักทวงจำนวนมาก นายกฯ ได้มีการตรวจสอบเชิงลึกในเรื่องดังกล่าวนี้อย่างไร เหตุใดจึงไม่พบข้อเท็จจริงตามที่สื่อออสเตรเลียรายงาน หรือตรวจพบแล้วปกปิดช่วยเหลือกัน และเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว นายกฯ จะรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างไร
ด้าน ร.อ. ธรรมนัส ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้มาตอบกระทู้กรณีเรื่องส่วนตัวของตนเอง โดยตั้งคำถามว่า นายกรัฐมนตรีจะแสดงความรับผิดชอบอย่างไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ 30 ปีที่แล้วของตัวเขา
ร.อ. ธรรมนัส บอกว่า อยากเรียนถึงคนไทยทั่วประเทศ ขออนุญาตกลับไปเรื่องที่ พล.ต.ท. วิศณุ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์เมื่อปี 2540-2541 ประเด็นคดีที่ตนถูกกล่าวหาว่าร่วมกับผู้ใต้บังคับบัญชาทำให้ผู้อื่นเสียชีวิต ซึ่งข้อเท็จจริงในคดีนี้ตนขออ่านใบสำคัญของคดีดำเลขที่ 10089/2541 และคดีแดง 3404/2546 ว่าบัดนี้คดีถึงที่สุดแล้ว โดยศาลอาญาสั่งยกฟ้องไม่มีลงโทษใดๆ และอัยการก็ไม่อุทธรณ์ประเด็นใดๆ ทั้งสิ้น ตนอยากกราบเรียนว่าคดีต่างๆ ในไทยตนไม่เคยถูกคำพิพากษาว่าทำความผิดในคดีใดๆ ทั้งนั้น
ส่วนประเด็นคดียาเสพติดออสเตรเลีย ทั้งประเด็นคำรับสารภาพ การดักฟัง คำให้การของตำรวจ
ร.อ. ธรรมนัส บอกว่า หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของไมเคิลได้ส่งอีเมลมาหาตนและพยายามขอคุย ตนก็ตอบไปว่าจะไปคุยกับคุณเรื่องอะไร เพราะคุณไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ พร้อมให้ไปดูประวัติการทำข่าวของคุณในอดีต รวมทั้งคุณอ้างว่ามีคำตัดสินศาล อ้างคำให้การและอ้างว่าตำรวจมีเครื่องดักฟัง
ร.อ. ธรรมนัส ย้ำว่า ได้แถลงข่าวไปแล้วในข้อเท็จจริง ทั้งนี้โทษการนำเข้า-ส่งออกเฮโรอีน โทษต่ำสุดคือ 10 ปี แต่หากเป็นเฮโรอีนจำนวนตามข่าวคือ จำคุกตลอดชีวิต ขอย้อนถามว่าท่านไม่เคยศึกษากฎหมายของประเทศออสเตรเลียเลยหรือ
ร.อ. ธรรมนัส บอกอีกว่า คดีนี้ไม่มีคำพิพากษา แต่เป็น Plea Bargaining (การต่อรองคำรับสารภาพ) โดยในขณะนั้นตนเป็นเด็กตัวเล็กๆ จากบ้านนอกจังหวัดพะเยา ภาษาอังกฤษยังไม่รู้เรื่องเลย จะไปเป็นมาเฟียที่ออสเตรเลียได้อย่างไร
ร.อ. ธรรมนัส ยืนยันด้วยว่า ตนไม่เคยรับสารภาพว่าขนยา ค้ายา หากเป็นข้อเท็จจริงไปเอามาเลยว่ารับสารภาพตรงไหน
“Plea Bargaining (การต่อรองคำรับสารภาพ) ผมไม่ได้เข้าสู่กระบวนการไต่สวนอะไรเลย ผมถูกกักขัง 8 เดือน หลังจากนั้นส่งไปทำงานที่ฟาร์มผู้ต้องขังของเด็กเกเร ตกเย็นก็กลับไปนอนที่เจ้าหน้าที่ให้นอน ใช้ชีวิตอยู่ถึง 4 ปี” ร.อ. ธรรมนัส กล่าว
ร.อ. ธรรมนัส บอกต่อไปว่า อัยการของเมืองซิดนีย์ ผู้พิพากษาท้องถิ่นบอกว่า ตนต้องมีหน้าที่เป็นพยานให้ผู้ต้องหาอีกคนที่เป็นฝรั่ง ซึ่งเมื่อครบ 4 ปี ตนไม่อยากกลับ อยากใช้ชีวิตครอบครัว แต่เมื่อรัฐบาลเขามีนโยบายให้กลับ ตนก็กลับโดยไม่มีคดีติดตัว
“ยืนยันว่าตนอยู่ 4 ปี ในฐานะพยาน โดยคดีนี้ท้ายสุดผู้ต้องหาที่เป็นฝรั่ง ยกฟ้อง ลองคิดดูว่าอะไรเป็นอะไร” ร.อ. ธรรมนัส กล่าวในที่สุด
ร.อ. ธรรมนัส กล่าวด้วยว่า ตนอยู่กับปัจจุบัน และถือว่าวันนี้โชคดีที่ได้ใช้เวทีนี้มาชี้แจงเรื่องในอดีต ขณะที่ต่อไปนี้จะเอาจริงในเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายไม่ว่าท่านใดก็ตามที่พาดพิงในเรื่องนี้
“ผมจะไม่ยอมให้อดีตมาทำลายอุดมการณ์ว่าชีวิตที่เหลือของผมจะทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและพี่น้องประชาชน
“ผมจะไม่ยอมอยู่กับเรื่องเก่าๆ ที่เหมือนเป็นฝันร้ายของผม หลังจากวันนี้ฝันร้ายวันนี้จะต้องหายไปจากผม” ร.อ. ธรรมนัส กล่าว
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า