วันนี้ (2 พฤศจิกายน) ที่อาคารรัชดาวัน ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดพะเยา ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการส่งตัวแทนในการสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในนามพรรคพลังประชารัฐ ว่าขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของหัวหน้าพรรค
ส่วนการถอนตัวของ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (อดีต ผบ.ตร.) ที่ถอนตัวออกจากการลงสมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เนื่องจากมีความขัดแย้ง และเปลื่ยนไปสนับสนุน พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง แทนนั้น ร.อ. ธรรมนัสยืนยันว่าไม่ได้มีความขัดแย้ง เพราะตนกับ พล.ต.อ. จักรทิพย์ เปรียบเสมือนคอหอยกับลูกกระเดือก เป็นเหมือนคนในครอบครัว คบกันมาตั้งแต่เด็กๆ ที่ตนเกิดมาได้ทุกวันนี้เพราะ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ช่วยเหลือตนเองมาตลอด ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันตนเองมาตลอด และตนก็คุยกับ พล.ต.อ. จักรทิพย์อยู่ทุกวัน
ร.อ.ธรรมนัสกล่าวด้วยว่า การถอนตัวไม่ลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ถือเป็นเหตุผลส่วนตัว ซึ่งไม่ได้บอกอะไรกับตน ส่วนจะมีการทาบทามกลับมาลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ในนามพรรคพลังประชารัฐช่วงใกล้เลือกตั้งหรือไม่นั้น ร.อ. ธรรมนัสระบุว่า ต้องเคารพการตัดสินใจของ พล.ต.อ. จักรทิพย์ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
นอกจากนี้ ร.อ.ธรรมนัสยังกล่าวถึงศึกในสภาว่า หัวหน้าพรรคได้วางมาตรการเพื่อไม่ให้การประชุมสภามีปัญหา โดยเฉพาะวาระสำคัญๆ ซึ่งเชื่อมั่นว่าคำพูดของหัวหน้าพรรคมีความศักดิ์สิทธิ์ ทุกคนจะเชื่อฟัง
ส่วนจะมีใครแหกมติหรือสวนทางกับพรรคนั้น จะมีการพิจารณามาตรการต่อไป แต่เชื่อว่าจะไม่มีใครแหกมติพรรค
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะมั่นใจได้หรือไม่กับปัญหาการเมืองในสภา ร.อ. ธรรมนัสกล่าวว่า เป็นเรื่องที่หัวหน้าพรรคได้สั่งการและกำชับไว้แล้วให้ทุกคนดำเนินการตามแนวทางของพรรค ส่วนตัวเชื่อว่าจะไม่เกิดขึ้น และหัวหน้าคงไม่ปล่อยให้เกิดขึ้น
ส่วนที่ผ่านมาได้คุยกับนายกรัฐมนตรีแล้วหรือยัง ร.อ. ธรรมนัสกล่าวสั้นๆ ว่า เรื่องนี้ได้ก้าวข้ามไปแล้ว เพราะรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐต้องทำงานร่วมกัน
ขณะเดียวกัน ร.อ. ธรรมนัสยังไม่ขอให้ความเห็นหรือวิจารณ์การเปิดตัว แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาว ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย เพื่อร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย เพราะถือว่าเป็นนโยบายของแต่ละพรรค แต่ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐได้มีการเตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกับคนทุกกลุ่มทุกวัย จึงไม่มีความวิตกกังวล เพราะเชื่อมั่นในความสามารถของหัวหน้าพรรค ทำอะไรต้องสำเร็จ ซึ่งการเมืองจะต้องเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งทุกเมื่อ แต่ไม่รู้จะเกิดขึ้นเมื่อไร
