วันนี้ (19 มกราคม) สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่กรมราชทัณฑ์ยอมรับว่า ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าข่ายเกณฑ์พักโทษจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว จนทำให้รัฐบาลอยู่ไม่ได้หรือไม่ ว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะในแต่ละวัน แต่ละเดือน มีการพักโทษมากมาย ซึ่งคนที่เข้าเกณฑ์ก็จะต้องได้รับสิทธิ์เหล่านั้น เราจะไปเจาะจงเป็นใครหรือท่านใดท่านหนึ่งไม่ได้
“ถ้าหากทักษิณครบกำหนดหรือการตรวจสอบของแพทย์ดำเนินการตามกติกาที่มีอยู่ครบถ้วนแล้ว ก็ต้องดำเนินการไปตามแนวทางของกฎกติกาที่มีอยู่ ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดามาก และคนทั่วไปก็ได้รับสิทธิ์นี้อยู่แล้ว ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร” สมศักดิ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามเรื่องเกี่ยวกับว่าขณะนี้มีการเคลื่อนไหวพร้อมตั้งข้อสังเกตกรณีทักษิณเป็นเรื่องของอภิสิทธิ์ชนนั้น สมศักดิ์กล่าวว่า ไม่มีหรอก อยู่ในการควบคุมของกรมราชทัณฑ์ จะมีอภิสิทธิ์ชนได้อย่างไร พร้อมย้ำว่า ไม่มีหรอกครับ ไม่มีแน่นอน เราก็ติ๊งต่างกันไป พูดกันไปเรื่อยเฉื่อย ไม่มีอะไร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เหมือนรัฐบาลพยายามชี้แจงประเด็นดังกล่าว แต่สังคมยังไม่เข้าใจ สมศักดิ์กล่าวว่า ก็ชี้แจงใหม่ ในเมื่อกติกาและหลักเกณฑ์ครบแล้วจึงถือว่ามีสิทธิ์
ราชทัณฑ์ชี้ ทักษิณ ชินวัตร เข้าเกณฑ์พักโทษกรณีพิเศษ
สำหรับประเด็นโครงการพักการลงโทษกรณีมีเหตุพิเศษ สิทธิ สุธีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เคยให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นประโยชน์ของผู้ต้องขังที่มีสิทธิ์ได้รับ แต่การพิจารณาว่าผู้ต้องขังรายใดจะเข้าเกณฑ์โครงการดังกล่าวนั้น ผู้บัญชาการเรือนจำแต่ละแห่งจะเป็นผู้พิจารณาคุณสมบัติและความเหมาะสม ทั้งแบบกรณีมีเหตุพิเศษและแบบปกติ ผู้ต้องขังไม่สามารถเสนอตัวเองได้
อย่างไรก็ตาม เรือนจำแต่ละแห่งจะพิจารณาผู้ต้องขังที่ผ่านเกณฑ์พักโทษในทุกเดือน แล้วเสนอรายชื่อมายังกรมราชทัณฑ์ เพื่อนำเข้าสู่คณะกรรมการพิจารณาพักการลงโทษที่จะประชุมในทุกเดือน
ส่วนคุณสมบัติของทักษิณ ซึ่งเป็นผู้ต้องขังเด็ดขาดชั้นกลาง สูงวัย และมีอาการเจ็บป่วย ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่จะได้รับการพิจารณาในโครงการพักการลงโทษ กรณีมีเหตุพิเศษ เนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรือมีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป (นักโทษเด็ดขาดชั้นกลางขึ้นไป)