วันนี้ (22 สิงหาคม) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท. ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงการรับมอบตัว ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทางทักษิณได้ทำหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาก่อนหน้านี้
โดยแสดงความจำนงที่จะขอมามอบตัวในวันดังกล่าว เมื่อเดินทางมาถึงตำรวจตรวจคนเข้าเมืองก็นำหมายศาลเข้าไปแสดงและอ่านหมายจับให้ทราบ และเข้าสู่ขั้นตอนการยืนยันอัตลักษณ์บุคคล
สำหรับทักษิณขณะนี้มีหมายจับอยู่แล้ว 4 หมาย ใน 3 หมายแรกเป็นหมายจับตามคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งได้ตัดสินไปแล้ว 3 คดี ส่วนอีก 1 หมายเป็นหมายจับของกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ที่ดำเนินคดีและส่งสำนวนให้พนักงานอัยการยื่นฟ้องเป็นที่เรียบร้อย โดยศาลยังไม่ตัดสิน
เมื่อถามถึงกรณีที่กรมราชทัณฑ์แถลงตรวจพบทักษิณเป็นกลุ่มเปราะบาง ป่วย 4 โรค ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิดนั้น หากจะต้องย้ายมารักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจจะมีขั้นตอนอย่างไร
พล.ต.ท. ประจวบ กล่าวว่า ขั้นตอนอยู่ในอำนาจของกรมราชทัณฑ์ในการควบคุมสั่งการพิจารณาว่าจะให้ไปรักษาที่ไหน ทั้งนี้กรมราชทัณฑ์สามารถที่จะทำหนังสือมาขอตำรวจเป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานในการควบคุมดูแลก็ได้
ซึ่งขบวนการนี้หากทางกรมราชทัณฑ์มีความประสงค์ที่จะส่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจก็มีความพร้อม เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ มีทั้งเครื่องมือและบุคลากรทางการแพทย์ครบ อีกทั้งเป็นหน่วยงานที่อยู่ในกำกับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ต้องขึ้นอยู่กับความประสงค์ของกรมราชทัณฑ์ว่าจะส่งตัวมาหรือไม่
หรือกรณีผู้ต้องขังร้องขอไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลอื่น ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกรมราชทัณฑ์ว่าจะอนุญาตหรือไม่ แต่หากถูกส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ หน้าที่หลักในการดูแลความปลอดภัยเป็นของกรมราชทัณฑ์ โดยตำรวจจะสนับสนุนหรือช่วยดูแลตามการร้องขอ ซึ่งไม่ได้เตรียมอะไรเป็นพิเศษ เพราะมีความพร้อมอยู่แล้ว โดยขณะนี้ยังไม่ได้รับการประสานจากกรมราชทัณฑ์ในการส่งตัวมารักษา
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเจ้าหน้าที่รัฐอำนวยความสะดวกให้ทักษิณ ซึ่งเป็นนักโทษหนีคดี พิเศษกว่าคนทั่วไปนั้น พล.ต.ท. ประจวบ ยืนยันว่า การปฏิบัติเป็นไปตามขั้นตอน เพียงแต่ทักษิณเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ตำรวจก็ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและได้จัดกำลังดูแลความปลอดภัยตามความเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดความวุ่นวาย