วันนี้ (29 กันยายน) ปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อัยการอาวุโส สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ได้แสดงความเห็นทางกฎหมายต่อกรณีที่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยื่นขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะรายเป็นครั้งที่ 2 ว่า โดยหลักการแล้ว ไม่สามารถทำได้
ปรเมศวร์อ้างถึง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 264 วรรค 2 ซึ่งระบุว่า เรื่องขอพระราชทานอภัยโทษอย่างอื่น ซึ่งมิใช่โทษประหารชีวิต ถ้าถูกยกครั้งหนึ่งแล้ว จะยื่นใหม่อีกไม่ได้ จนกว่าจะพ้น 2 ปี นับตั้งแต่วันถูกยกครั้งก่อน
อัยการอาวุโสระบุว่า ทักษิณยังไม่พ้นกำหนด 2 ปี นับตั้งแต่การขออภัยโทษในครั้งแรกที่ได้รับการลดโทษเหลือ 1 ปี ซึ่งถือเป็นการได้รับพระราชทานอภัยโทษแล้ว ส่วนโทษประหารชีวิตเป็นข้อยกเว้นที่สามารถขอซ้ำได้
ปรเมศวร์ยังได้กล่าวถึงขั้นตอนการรับโทษครั้งแรกของ ทักษิณว่า การที่เข้าเรือนจำเพียง 1 วัน ก่อนออกไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจนั้น ถือว่าเป็นการเข้ารับโทษแล้ว จึงสามารถขออภัยโทษในครั้งแรกได้ แต่สำหรับการขอซ้ำต้องรอให้ครบ 2 ปี ตนว่าอย่าไปฝืน
นอกจากนี้ ปรเมศวร์ยังได้เตือนถึงผลทางกฎหมาย หากมีการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวต่อไปว่า:
- หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมพิจารณาและ ยื่นเรื่องต่อ จะมีความผิดตาม มาตรา 157 (ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ)
- ตัวทักษิณเองก็อาจจะเข้าข่ายผิด มาตรา 157 ฐานสนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐ
เมื่อถามว่าเหตุใดทักษิณจึงยังยื่นคำร้องไป ปรเมศวร์แสดงความเห็นว่า “เขาอาจจะอ่านกฎหมายไม่ครบ” ทำให้ไม่ทราบข้อกำหนดทั้งหมด ส่วนคำร้องที่ยื่นไปแล้วนั้นจะถือเป็นโมฆะหรือไม่ ก็จะ “ยื่นไม่ได้” หากมีการรับเรื่องไว้
ปรเมศวร์กล่าวทิ้งท้ายว่า การที่ทักษิณจะได้รับการพระราชทานอภัยโทษนั้น อาจทำได้ในกรณีที่รัฐบาลออก พระราชบัญญัติพระราชทานอภัยโทษ ซึ่งจะเป็นอีกกรณีหนึ่งที่แตกต่างจากการขอเฉพาะราย