วันนี้ (22 สิงหาคม) ที่ศาลอาญา รัชดาภิเษก วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังศาลอาญาพิพากษายกฟ้องในคดี มาตรา 112 และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ โดยระบุว่า ศาลอ่านคำพิพากษายกฟ้องจำเลยในคดีนี้ เหตุผลในการยกฟ้องมีหลายเหตุผล แต่ทั้งหมดทั้งปวง คือการพิสูจน์ของโจทก์ สืบไม่สมกับภาระการพิสูจน์การฟ้อง
เมื่อผู้สื่อข่าวตั้งคำถามว่า ตอนนี้ทักษิณสามารถเดินทางไปต่างประเทศได้หรือไม่ วิญญัติระบุว่า ตอนนี้มีการยกฟ้องแล้ว ถือว่าเป็นบุคคลผู้บริสุทธิ์ คำสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศก็ดี เราก็จะยื่นคำร้องขอให้ศาลเพิกถอน ซึ่งโดยหลักการต้องเป็นอย่างนั้น หนังสือเดินทางที่ยึดไว้ก็มีกระบวนการที่เราต้องทำ ทั้งนี้ เชื่อว่าท่านจะไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศในเร็วๆ นี้เพราะท่านเองก็ยังมีภารกิจต่างๆ
ส่วนจะยื่นหนังสือขออนุญาตเดินทางไปต่างประเทศเมื่อไรนั้น ขออนุญาตสงวนสิทธิ์ที่จะแจ้ง แต่ต้องทำอยู่แล้วเพราะเป็นสิทธิ์ของจำเลย เมื่อพ้นข้อหาแล้วก็ต้องได้รับสิ่งต่างๆ ตามกฎหมาย
วิญญัติย้ำว่า ทักษิณเองก็ใส่ใจทุกเรื่องราวในขั้นตอนสืบพยาน หลายท่านก็ทราบดีว่า ท่านเป็นคนลุกขึ้นซักถามพยานเองหลังทนายจำเลยถามไปแล้วในทุกปาก ท่านอ่านหนังสือเอกสารหลักฐานโดยละเอียด ท่านก็ถือเป็นนักกฎหมายคนหนึ่ง เพราะท่านจบปริญญาเอกด้านกฎหมาย
สำหรับท่าทีของทักษิณในระหว่างฟังคำพิพากษานั้น ก็มีท่าทีนิ่งเฉย และตั้งใจฟังคำพิพากษาด้วยสมาธิ ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ ซึ่งเมื่อศาลอ่านถึงท่อนที่ยกฟ้อง ท่านก็ยิ้มออกมา เป็นเรื่องปกติของจำเลยโดยเฉพาะข้อกล่าวหานี้ที่ไม่อยากใช้คำว่ากลั่นแกล้ง แต่นำมาเล่นงานให้ท่านตกเป็นเหยื่อ แล้วตอนนี้ท่านก็พิสูจน์ตัวเอง เดินเข้าต่อสู้ตามกระบวนการอย่างเต็มที่และผลก็ออกมาตามนี้
สำหรับเจตนาของทักษิณ ศาลเองก็นำมาวินิจฉัย แต่ก่อนหน้าได้วินิจฉัยพยานหลักฐานของโจทก์ก่อน การสืบพยานของเราพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่าขณะที่ท่านเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 6 ปี ท่านแสดงออกชัดเจน
วิญญัติกล่าวต่อไปว่า แม้กระทั่งข้อความที่ท่านนำมาพูดและมีผู้ฟ้อง พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ซึ่งปัจจุบันก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นใคร ก็ยังพาดหัวข่าวใต้คลิปเพื่อให้คนอยากเข้าไปอ่าน ก็ไม่ได้พาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ก็ชัดเจนว่าเมื่อคนที่นำเข้าคลิปเข้าใจอย่างนั้นแล้ว คนพูดก็ไม่เคยพูด อย่างนั้นก็เป็นที่ชัดเจนว่าไม่มีเจตนา
ส่วนจะดำเนินการฟ้องกลับหรือไม่นั้น ขณะนี้เรายังไม่มีการดำเนินการดำเนินคดีกับบุคคลที่นำเข้าคลิป เพราะเราก็ไม่ทราบว่าบุคคลนั้นคือใคร และการพิสูจน์หลักฐานในชั้นสอบสวนเราก็ไม่ได้ติดใจ เราเห็นว่า เจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยถูกผู้มีอำนาจกดดันก็ต้องทำ และขณะนั้น เจ้าพนักงานบางคนก็ยังพูดด้วยว่าเวลานั้นมีมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว มีใครไม่กลัวบ้าง ข้าราชการในอำนาจก็กลัวทั้งนั้น แม้พยานก็ยอมรับว่าถูกกดดัน