×

วิญญัติยืนยัน ทักษิณได้รับโทษจำคุกตามกระบวนการกฎหมาย อุบตอบนำเจ้าตัวขึ้นเบิกความหรือไม่

โดย THE STANDARD TEAM
13.06.2025
  • LOADING...
วิญญัติ ชาติมนตรี

วันนี้ (13 มิถุนายน) ภายหลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีที่กรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกตัดสินจำคุก 8 ปี ต่อมาได้รับการลดโทษเหลือจำคุก 1 ปี เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14

 

วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความของทักษิณ พี่ได้รับมอบอำนาจให้ขึ้นศาลแทน เปิดเผยว่า จากเดิมที่ยังไม่รู้ว่าศาลจะดำเนินกระบวนการพิจารณาอย่างไร วันนี้ศาลก็ได้กำหนดแนวทางที่ชัดเจนแล้ว ซึ่งวันนี้ศาลได้ไต่สวนพยาน 1 ปาก คือผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และมีการซักถามพยาน แต่ศาลก็เห็นว่ายังมีข้อเท็จจริงอีกพอสมควรที่จะต้องแสวงหาความจริงและหลักฐานมาประกอบการวินิจฉัย มีพยานบุคคลอีกกว่า 20 ปาก ที่ศาลมีหมายเรียกมาให้การไต่สวนต่อศาล และให้โอกาสจำเลยด้วย 

 

ทั้งนี้ วิญญัติได้ยื่นเสนอพยานบุคคลเพื่อประกอบการชี้แจงต่อศาล และศาลก็ให้เขียนคำร้อง และศาลจะพิจารณาว่าจะอนุญาตหรือไม่

 

“เดิมทีเหมือนคนตาบอด ไม่ทราบว่าศาลจะดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างไร แต่หลังจากที่มีการเรียกผู้บัญชาการเรือนจำมาให้การ ทำให้พอทราบแนวทางว่าศาลจะไต่สวนผู้บัญชาการเรือนจำ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าศาลจะให้โอกาสไต่สวนพยานบุคคลอื่นๆ หรือไม่ ดังนั้นการที่ศาลมีคำสั่งพิจารณาหลายนัดต่อเนื่องไปเรื่อยๆ แสดงให้เห็นว่าศาลกำลังแสวงหาความจริงว่าเรื่องราวเกิดขึ้นอย่างไร ศาลไม่ได้รับฟังกระแสสังคมอย่างเดียว แต่ฟังพยานหลักฐานและพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องจริงๆ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง”  

 

ทั้งนี้ วิญญัติระบุว่า ยังบอกไม่ได้ว่าแนวทางเหล่านี้จะเป็นคุณหรือเป็นโทษ แต่ความจริงคือทักษิณมอบตัว ถูกหมายจำคุก ก็ได้ถูกนำตัวเข้าเรือนจำ ไปอยู่ในแดนที่อยู่ในบริเวณของเรือนจำ ถือว่าได้อยู่ในกระบวนการของการบังคับโทษเบื้องต้นแล้ว ต่อมาทักษิณป่วย ได้รับการตรวจอย่างน้อย 3 เวลาตามมาตรฐาน แต่แพทย์เห็นว่าเป็นโรคที่ต้องเฝ้าระวัง ก่อนจะถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล และกระบวนการหลังจากนี้ก็เป็นการถูกจำคุกตามมาตรา 55 ของ พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ ถือว่าโรงพยาบาลเป็นสถานที่คุมขัง และยังอยู่ในความควบคุมของกรมราชทัณฑ์ 

 

เมื่อมีสิทธิประโยชน์ของผู้ต้องขัง เช่น การขอพระราชทานอภัยโทษ ทักษิณก็ใช้กระบวนการนั้น เมื่อถึงเวลาคณะอนุกรรมการพิจารณาการพักโทษ ซึ่งจะต้องเข้าเกณฑ์เป็นผู้ถูกคุมขังและเป็นนักโทษเด็ดขาด ซึ่งก็ผ่านกระบวนการของรัฐมาหมด จนทักษิณได้รับการพักโทษออกมา และต่อมาก็ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติ เท่ากับทักษิณผ่านกระบวนการที่เกิดขึ้นภายใต้กฎหมายของประเทศไทยทั้งหมด

 

“คุณทักษิณเป็นนักโทษเด็ดขาด ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ถึงผ่านการพิจารณาอภัยโทษ จึงได้รับการพิจารณาปล่อยตัว” วิญญัติกล่าว

 

ส่วนจะนำทักษิณมาเบิกความต่อศาลฎีกาหรือไม่ วิญญัติกล่าวว่า ขอไม่ตอบ ขณะที่เรื่องมติของแพทยสภา เป็นเรื่องหมอกับหมอ ก็ว่ากันไป มีข้อบังคับของตนเอง และจริยธรรมต่างๆ แต่แพทยสภาจะมีข้อเคลือบแคลงถึงความไม่เป็นกลาง หรือมีนัยใดหรือไม่ ส่วนตัวไม่มีความเห็น ขอยืนยันเพียงว่าเป็นคนละประเด็นกับที่ศาลไต่สวน เนื่องจากแพทยสภาก็ไม่เคยปฏิเสธว่าทักษิณไม่ได้ป่วย มีเพียงเรื่องอาการวิกฤติหรือไม่ ซึ่งก็ไม่ใช่ประเด็น เพราะในกฎหมายไม่มีคำนี้

 

“ดังนั้นแพทยสภาจะมีมติอย่างไรก็เป็นเรื่องของแพทยสภา แต่ผมเชื่อว่านายแพทย์ที่รักษาทักษิณ ใช้ดุลพินิจส่วนตัววินิจฉัยร่างกายของผู้ป่วย และดุลพินิจสามารถแตกต่างกันได้ในแพทย์แต่ละคน หากเป็นเรื่องผิดจริยธรรม ก็อาจเป็นมาตรฐานใหม่ของแพทยสภาหรือไม่ อย่างไรก็ตามแพทย์ทั้ง 3 คน ยังสามารถเรียกร้องความเป็นธรรมผ่านการยื่นศาลปกครองได้อยู่” วิญญัติระบุ

 

ส่วนประวัติการรักษาตัวของทักษิณที่รักษาตัวในต่างประเทศ ยืนยันว่ามีแน่นอน แต่ถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลสุขภาพ ที่ต้องได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายที่ใครจะเอามาเปิดเผยได้ และทักษิณก็ไม่ยินดีที่จะเปิดเผยหรือให้ใครคัดลอกสำเนา แต่ได้มีการยื่นให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และแพทย์ที่ทำการตรวจร่างกายแล้ว แพทย์มีการบันทึกไว้ในประวัติผู้ป่วยแล้ว ก่อนจะคืนประวัติให้เจ้าของ ตอนนี้เมื่อศาลต้องการเห็นประวัติและร้องขอให้กรมราชทัณฑ์ส่งให้ ก็ต้องรอดูทางกรมราชทัณฑ์ ซึ่งศาลไม่ได้เรียกจากตนเอง แต่เรียกจากกรมราชทัณฑ์ 

 

“แต่หากเรียกจากผม ผมก็ต้องส่งให้ ซึ่งคุณทักษิณก็สงวนสิทธิ์ไม่ส่งได้” วิญญัติกล่าว

 

สำหรับเรื่องใบเสร็จค่ารักษาที่ ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส. พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเคยเป็นผู้ยื่นร้องต่อศาลนั้น วิญญัติตอบกลับว่า ต้องถามชาญชัยกับพวกว่าได้มาได้อย่างไร หากเป็นข้อมูลส่วนตัวที่ควรต้องปกปิด ก็ขอให้มีการตรวจสอบว่าชาญชัยได้มาได้อย่างไร แต่หากถามว่าทำไมใบเสร็จน้อย ไม่มีค่ายา ก็ขอบอกว่าโรคของทักษิณน้อย ไม่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และทักษิณก็รักษาตัวอยู่ต่างประเทศก่อนแล้ว ดังนั้นไม่มีกฎหมายใดห้ามใช้หมอหรือยาจากต่างประเทศ ขอตอบแค่นี้

 

ส่วนจะมีการยื่นเรื่องต่อศาลธรรมนูญหรือไม่นั้น หากมีการกระทำใดที่ขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญ เราอาจใช้สิทธิ์ แต่ขณะนี้ยังไม่มีแนวคิดนั้น

 

หลังจากนั้น ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามว่า ทักษิณได้หลบหนีไปแล้วหรือไม่ ซึ่งวิญญัติตอบว่า “ผมไม่ใช่คุณทักษิณ” ก่อนจะยืนยันอีกว่า ทักษิณไม่ได้หลบหนี ยังอยู่ในประเทศไทย 

 

ส่วนที่เมื่อคืนปรากฏรายงานข่าวว่า ทักษิณไปรับประทานอาหาร ที่ท่าเตียนนั้น วิญญัติระบุว่า “ท่านก็เป็นปุถุชนคนหนึ่ง และเป็นประชาชนคนไทย อย่าเอาประเด็นของท่านมาเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาลเลย มองเรื่องอื่นบ้างเถอะ ท่านก็เข้ามาตั้งใจช่วยทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ ตามที่มีพระราชหัตถเลขา ท่านมีประสบการณ์ ความรู้ความสามารถ เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ท่านต้องทำเพื่อประเทศชาติบ้าง อย่าเอาแต่เรื่องการเมืองมาทำให้ท่านเป็นเหยื่อทางการเมืองเลย”

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising