วันนี้ (5 มกราคม) ที่โรงเรียนปล้องวิทยาคม ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศรัยในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของ สลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย พรรคเพื่อไทย เบอร์ 2 โดยระบุว่า วันนี้มาเชียงรายอีกครั้ง เพราะคิดถึงชาวเชียงราย และ ยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นน้องรัก สร้างพรรคมาด้วยกัน วันนี้เมื่อจะส่งสลักจฤฎดิ์ลงนายก อบจ. ก็ต้องมาสนับสนุนให้ชนะเลือกตั้ง อีกเหตุผลคือวันนี้นายกรัฐมนตรีเป็นลูกสาวและเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จึงต้องมาสนับสนุนพรรคเพื่อไทยให้ชนะเลือกตั้ง
ทักษิณระบุด้วยว่า แต่เดิมไม่ได้สนใจการเมืองท้องถิ่น แต่วันนี้เราไม่ได้มี 200 สส. เหมือนก่อน ในการเลือกตั้งสมัยหน้าก็ขอให้คืน สส. ให้พรรคเพื่อไทยให้หมด การเมืองท้องถิ่นเป็นกลไกสำคัญ 17-18 ปีที่ไม่ได้อยู่ประเทศไทย ปัญหาทุกเรื่องที่เคยแก้ไว้สมัยก่อนหายไปหมด จึงต้องมานั่งดูว่าจะทำอย่างไรให้ต่างจังหวัดฟื้นก่อน หากเศรษฐกิจในต่างจังหวัดฟื้น มีกินมีใช้ เศรษฐกิจประเทศก็จะดี
“หมู่คนแอฟริกา ดำก็ดำ จมูกก็แหมบ หายใจก็ยาก โดนเขาจ้างไปเป็นนางแบบ เดินแบบครั้งหนึ่งเป็นล้านบาท เด็กบ้านเรายังหน้าตาดีกว่า ไม่ต้องไปทำจมูก เสริมกราม ต่อไปนี้เราจะคัดคนบ้านเราที่เป็นชนชาติไทย คนดอย คนกะเหรี่ยงที่สวยธรรมชาติ ไม่ต้องไปเสียเงินทำจมูก เสริมนม ใครบุคลิกดีก็ส่งไปเป็นนางแบบระดับโลก” ทักษิณกล่าว
ทักษิณกล่าวอีกว่า ดิจิทัลวอลเล็ตที่รัฐบาลประกาศไว้ เทคโนโลยีจะเสร็จเดือนมีนาคม แล้วจะโอนเงินให้คนที่มีอายุ 60 ปีลงมา ส่วนวันที่ 29 มกราคมนี้จะเป็นเงินให้สำหรับคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และจะให้คนหนุ่มสาวเรียนรู้การใช้เทคโนโลยี เพราะต่อไปการติดต่อกับรัฐบาลจะผ่านดิจิทัลวอลเล็ตหมด
ช่วงหนึ่งมีมวลชนตะโกนขึ้นมาว่า อยากให้ทักษิณกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี ทักษิณจึงตอบกลับว่า แก่แล้ว ขอสนับสนุนให้ลูกเป็นแล้วคอยส่งเสริมดีกว่า ได้ค่าช่วยหาเสียงวันละ 300 บาท วันนี้มา 3 เวที ได้เวทีละ 100 บาท มาลำบากก็ตอนแก่
“ตอนไม่เล่นการเมืองก็สบาย มีเงินอยู่ 6 หมื่นล้านบาท พออยู่ไปอยู่มาก็จนลงเพราะโดนยึดบ้าง โดนหาเรื่องบ้างสารพัดอย่าง ไอ้พวกนี้หาว่าผมไปเอาสตางค์ที่ไหนมา ก็รวยตั้งแต่ปี 2535-2536 แล้ว ตอนนั้นผมรวยที่สุดในประเทศ แต่ตอนนี้จนพอๆ กับชาวเชียงราย” ทักษิณกล่าว