วันนี้ (14 พฤศจิกายน) ที่จังหวัดอุดรธานี ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยแกนนำพรรคเพื่อไทย เช่น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีปราศรัยช่วย ศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) อุดรธานี ในนามพรรคเพื่อไทย หาเสียงเป็นวันที่สอง โดยมีประชาชนมาร่วมรับฟังการปราศรัยกว่า 5,000 คน
ณัฐวุฒิปราศรัยว่า ตนมาครั้งที่แล้วและบอกขอยกจังหวัด ยกจังหวัดอย่างไรหายไป 3 เขต วันนี้จึงขอมาทวงสัญญา เพราะเรารักกันมาตั้งแต่ปี 2544 วันนี้ 23 ปีแห่งความทรงจำ จะพิสูจน์พลังอีกครั้งในการเลือกตั้งนายก อบจ. ครั้งนี้ ซึ่ง วิเชียร ขาวขำ แสดงสปิริตลาออกจากนายก อบจ. เนื่องจากสุขภาพไม่ดี เดินกะเผลก เพื่อเปิดทางให้กับศราวุธ ไม่เหมือนคนกรุงเทพฯ เดินไม่ดีก็ยังอยากเป็นนายกฯ
ทุ่มเงินส่วนตัว 300 ล้านบาท ปรับปรุง OTOP
ต่อมาทักษิณขึ้นปราศรัยระบุว่า ที่เลือกมาอุดรธานีเพราะคิดถึงพี่น้อง และคนอุดรธานีก็ไม่เคยลืมตน มีใครทันตอนตนเป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ที่ต้องถามเพราะตอนนี้อายุ 75 ปีแล้ว เห็นพี่น้องมาจำนวนมากแบบนี้หัวใจก็พองโต เมื่อก่อนเจอพี่น้องต่างจังหวัดกลับไปมีความสุข และไปนั่งคิดอย่างเดียวว่าจะทำอย่างไรให้เขาหายจน
ทักษิณกล่าวต่อว่า วันนี้นั่งรถมาเห็นสภาพพี่น้องก็เป็นห่วง ตนถูกปฏิวัติออกไป 17 ปี แต่พี่น้องยังลำบากอยู่ คนไม่มีหนี้มีน้อย แสดงว่าที่ผ่านมาคนจนไม่ได้รับการเหลียวแล ถามจริงๆ ทำไมคนอุดรธานีไม่ลืมตน โครงการ 30 บาทใช่หรือไม่ แล้วกองทุนหมู่บ้านยังมีอยู่หรือไม่ เมื่อก่อนตอนที่ตนอยู่ OTOP คือเลื่องลือมาก แต่ตอนนี้หายไปเยอะ หาก OTOP ได้รับการปรับปรุงเหมือนสมัยที่ตนอยู่คงจะขายได้เยอะ และจะทำให้พี่น้องมีรายได้เพิ่มขึ้น
ทักษิณกล่าวอีกว่า ตนใช้เงินส่วนตัว 300 ล้านบาทจ้างชาวต่างชาติ ปรับปรุง OTOP ครั้งใหญ่ อีกไม่นานเขาจะเปิดตัวว่าจะต้องรื้อไปทำอะไร และเพื่อปรับปรุง OTOP ไปขายทั่วโลก แล้วจะมาเสนอ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยที่ไม่เก็บเงิน ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงการคลังร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทยปรับปรุงโครงสร้างหนี้ โดยเฉพาะหนี้ครัวเรือน
ลดทุนผูกขาด-แก้กฎหมายล้าหลัง สาเหตุทำคนไทยจน
“นายกฯ อุ๊งอิ๊งเป็นลูกคนเล็ก เป็นคนที่ติดตามผมไปทุกที่ตั้งแต่ 8 ขวบ วันนี้ไปประชุมเอง เป็นนายกฯ เอง แต่สิ่งที่นายกฯ อุ๊งอิ๊งมีเหมือนผมทุกอย่างคือความรักและความห่วงใยพี่น้องประชาชน คิดว่าต้องแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนให้ได้ และเชื่อว่ากลางปีหน้าพี่น้องประชาชนจะเห็นแสงสว่าง ปลายปีจะเห็นเศรษฐกิจที่คึกคัก เขาบ่นกับผมว่าการผูกขาดทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นการผูกขาดโดยรัฐก็ดี หรือผูกขาดโดยเอกชนก็ดี ทำให้คนไทยจนเหมือนเป็นเสือนอนกิน วันนี้จึงต้องลดการผูกขาดให้ประชาชนมากที่สุด” ทักษิณกล่าว
ทักษิณกล่าวต่อว่า แม้กระทั่งข้าวที่ส่งออกต่างประเทศก็ต้องผ่านสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย มีการตรวจสารพัดซึ่งเป็นต้นทุนของเกษตรกร และกฎหมายนี้ก็ใช้ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ที่บอกว่าข้าวเป็นยุทโธปกรณ์หรือเครื่องมือทางทหารที่ต้องควบคุม เพราะฉะนั้นจึงต้องยกเลิกกฎหมายเก่าๆ ที่ทำให้คนไทยจน โดยเฉพาะเสรีภาพทางการค้าขายต่างๆ
แนะพรรคประชาชนแก้กฎหมายเก่า เอาสิ่งเฮงซวยออกไป แทนการออกกฎหมายใหม่
“เวลาพรรคประชาชนมาหาเสียง ท่านต้องบอกพรรคประชาชนว่าไม่ต้องเสนอกฎหมายใหม่หรอก ยกเลิกกฎหมายเก่าที่เป็นปัญหากับประชาชนดีที่สุด วันนี้แข่งกันออกกฎหมายใหม่ แข่งกันไปทำไม เพราะกฎหมายเก่าเฮงซวยกันเยอะแยะ ก่อนสร้างสิ่งใหม่เอาสิ่งเฮงซวยออกไปก่อน ล้างซวย” ทักษิณกล่าว
ทักษิณกล่าวด้วยว่าเราต้องปรับค่านิยมของคนไทย อย่าให้ลูกรับปริญญาแล้วไม่มีงานทำ เพราะโลกบอกว่าปริญญามีความสำคัญน้อยกว่าความชำนาญ จึงขอฝากพี่น้องบ้านดุงให้บอกว่าวันนี้ทักษิณกลับมาแล้ว นโยบายหลักของพรรคไทยรักไทยคือ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ซึ่งยังใช้ได้จนถึงทุกวันนี้ รัฐบาลมีหน้าที่ทำเศรษฐกิจท้องถิ่นให้ดี เลยต้องมาสนใจ อบจ. วันนี้ตนมาด้วยตัวเองเพื่อสนับสนุนผู้สมัครเบอร์ 2
“ถ้าไม่ได้ชนะถล่มทลายผมอายเขานะ คนอุดรอย่าให้ผมอายนะ ถ้าไม่อายผมจะได้มาเยี่ยมบ่อยๆ ถ้าไม่อย่างนั้นผมต้องใส่หน้ากากอนามัยมาเยี่ยม” ทักษิณกล่าว
บอกการเมืองเฮงซวยขึ้นเรื่อยๆ ช่วยบ้านเมืองยาก นักร้องเยอะ
ทักษิณยังกล่าวด้วยว่า ใครได้เงิน 10,000 บาทไปแล้วบ้าง คนที่ไม่ได้อยากได้หรือไม่ พร้อมย้ำว่ามาแน่ เพราะนี่เป็นวัฒนธรรมที่สืบทอดมาจากพรรคไทยรักไทยที่พูดอะไรแล้วต้องทำ แต่วันนี้ทำยากกว่าเมื่อก่อน เพราะมีกลไกข้าราชการเทอะทะจากการปฏิวัติ บางกฎหมายคนจะเขียนก็เอารูปตนตั้งไว้แล้วบอกว่ากูจะจัดการมันอย่างไรดี
“อิจฉาอะไรก็ไม่รู้ ทำให้การช่วยเหลือบ้านเมืองทำได้ยาก หาว่าครอบงำ นักร้องก็เยอะ ไม่รู้มันร้องอะไรนักหนา วันนี้ผมไม่คิดอะไรมาก แค่อยากช่วยชาวบ้านให้หายจน อยากให้ยาเสพติดหมดไป ผมเหลืออีก 25 ปีจะครบ 100 ปี ก็ขอให้ช่วยกัน เห็นสภาพบ้านเมืองแล้วหดหู่ หากปล่อยไว้แบบนี้คนไทยจะเหมือนคนลาว ผมเป็นห่วงที่สุดคือคนรากหญ้า สิ่งที่ยากเลยคือนักการเมืองเฮงซวย หากการเมืองเฮงซวยเมื่อไร นักการเมืองก็เฮงซวยตาม แต่ระหว่างที่ผมออกไปเขาก็สร้างระบบกติกาให้การเมืองมันเฮงซวยขึ้นเรื่อยๆ” ทักษิณกล่าว
ทักษิณกล่าวต่อว่า วันนี้ต้องเลิกดัดจริต ต้องอยู่กับความเป็นจริงว่าบ้านเมืองเราต้องการการพัฒนาสูงมาก ทุกวันนี้ระบบราชการเทอะทะ ควบคุมมากเกินไป ไม่ไว้ใจพี่น้องประชาชน ที่จริงแล้วประชาชนสามารถช่วยตัวเองและตัดสินใจเองได้ ประเทศจะเจริญได้ต้องลดอำนาจภาครัฐ เพิ่มอำนาจให้ภาคประชาชน เพื่อป้องกันเรื่องโอกาสที่ไม่เท่าเทียมกัน
ย้ำเพื่อไทยเป็นรัฐบาลช่วยแก้ปัญหาก่อนเลือกตั้งครั้งหน้า
ทักษิณกล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชนหรือพรรคสีส้มนั้นมีความเหมือนคือเรื่องของความเท่าเทียม แต่พรรคประชาชนบอกว่าทุกคนเท่ากันทั้งฐานะและสถานะ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่พ่อจะเท่ากับลูก แต่พรรคเพื่อไทยมองว่าเป็นความเท่าเทียมทางโอกาส พรรคเพื่อไทยจึงพยายามอย่างยิ่งให้คนยากจนมีโอกาสเท่าเทียมกัน นายกฯ บอกว่าจะประกาศข่าวดีในการที่จะหาเงินส่งลูกหลานไปเรียนเมืองนอก
ทักษิณกล่าวอีกว่า ขับรถผ่านเห็นคู่แข่ง บางรูปเห็นรูปคู่กับหัวหน้าพรรค บางรูปก็คู่กับ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แสดงว่าเห็นว่าพิธาหล่อกว่าหัวหน้าพรรคประชาชน แต่พรรคเพื่อไทยใช้รูปนายกฯ แพทองธาร ไม่จำเป็นต้องใช้รูปคู่ตน เพราะนายกฯ หน้าเหมือนตนอยู่แล้ว
ทักษิณยังฝากศราวุธ ผู้สมัครลงเลือกตั้งนายก อบจ. เบอร์ 2 สมัยที่แล้วเคยเป็นกรรมาธิการ ลำดับต่อไปเป็นรัฐมนตรี โชคร้ายสอบตก จึงขอให้พี่น้องอุ้มมาเป็นนายก อบจ. และอนาคตจาก อบจ. เป็นรัฐมนตรี ระหว่างนั้นศราวุธคุกเข่ากราบพี่น้องประชาชนที่มาฟังปราศรัย
“ช่วงชีวิตนี้เป็นช่วงชีวิตที่ผมมีความสุขมากที่สุด แม้จะโดนร้อง โดนเห่าหอนบ้าง โอ๊ย ธรรมดาพี่น้องเอ๊ย เวลาไปวัดกลางคืนกลับบ้านมาสุนัขก็เห่าหอนเป็นธรรมดา อย่าไปพยายามตีความว่ามันเห่าอย่างไร อย่าไปใส่ใจ สุนัขอยู่ส่วนสุนัข คนก็อยู่ส่วนคน” ทักษิณกล่าว
ทักษิณกล่าวทิ้งท้ายว่า ขอให้พี่น้องมีพลัง มีกำลังใจ วันนี้เพื่อไทยกลับมาเป็นรัฐบาลแล้ว เป็นพรรคที่เป็นนักแก้เศรษฐกิจ นักแก้ปัญหายาเสพติด นักกระจายอำนาจลงสู่ภาคประชาชน และวันนี้จะเป็นนักแก้การผูกขาด ขอให้พี่น้องอดทนร่วมกันอีกนิดเดียว มั่นใจว่าท่านจะได้เห็นก่อนการเลือกตั้งใหญ่ในปีหน้า
ทั้งนี้ หลังการปราศรัยทักษิณถ่ายเซลฟีและสวมกอดชาวบ้านที่มาร่วมรับฟังการปราศรัยด้วย