×

ไทยสร้างไทย ขอรัฐเปิดความจริงปมเหมืองทองอัครา ห่วงสมบัติชาติเสียหาย พบหุ้นคิงส์เกตราคาพุ่งหลังได้รับสิทธิ์กลับมาทำเหมือง

โดย THE STANDARD TEAM
14.02.2022
  • LOADING...
ศิธา ทิวารี

วานนี้ (13 กุมภาพันธ์) น.ต. ศิธา ทิวารี ประธานคณะกรรมการอำนวยการและพัฒนา พรรคไทยสร้างไทย แถลงข่าว ชวนติดตามกรณีข้อพิพาทเหมืองทองอัคราว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะดำเนินการอย่างไร จะทำให้ประเทศชาติ ประชาชนเกิดความเสียหายหรือไม่

 

โดยพรรคไทยสร้างไทยมีข้อสังเกตว่า เหตุใด บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด (Kingsgate Consolidated Limited) จึงยอมเลื่อนการวินิจฉัยของอนุญาโตตุลาการ โดยไม่สนใจค่าโง่จากการยกเลิกเหมืองทองที่คาดว่าจะได้รับมากกว่า 3 หมื่นล้านบาท แสดงว่าการได้สิทธิ์ทำเหมืองทองต่อไป โดยเฉพาะการได้พื้นที่และอายุสัมปทานเพิ่มขึ้นนั้นมีค่าเกินกว่า 3 หมื่นล้านบาทหรือไม่

 

จากการติดตามยังพบอีกว่า เมื่อเดือนที่ผ่านมาหุ้นของบริษัทคิงส์เกต (KCN) ที่เทรดอยู่ในตลาด ASX ราคาปรับตัวขึ้นกว่า 100% โดยถ้านับตั้งแต่มีข่าวว่ารัฐบาลไทยจะอนุมัติให้บริษัทคิงส์เกตกลับมาทำเหมืองทองในประเทศไทยต่อได้ หุ้นของบริษัทนี้ได้ปรับตัวสูงขึ้นมากว่า 300% แล้ว โดยในปัจจุบันมาร์เก็ตแคปน่าจะทะลุ 1 แสนล้านบาท ในขณะที่ประเทศไทยจะได้รับตอบแทนจากค่าภาคหลวงแร่ประมาณ 4 พันกว่าล้านบาท หรือคิดเป็นเพียง 0.4-0.5% ของมูลค่าบริษัทที่เพิ่มขึ้นมา ณ ปัจจุบัน

 

ดังนั้นพรรคไทยสร้างไทยจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดต่อพี่น้องคนไทย ทั้งในเรื่องความปลอดภัยของชุมชนโดยรอบเหมือง พื้นที่อุทยาน หรือป่าสงวน และสภาพแวดล้อมที่จะถูกทำลาย รวมถึงผลประโยชน์ที่บริษัทจะได้รับมีมูลค่าเท่าใด โดยปัจจุบันการสำรวจทางธรณีวิทยาพัฒนาไปไกลมาก เราสามารถสำรวจทรัพยากรใต้ดินว่ามีจำนวนมากน้อยเพียงใด โดยใช้งบประมาณในการสำรวจที่ต่ำมาก เหตุใดบริษัทข้ามชาติจึงรู้ว่ามีทรัพยากรอยู่ใต้พื้นแผ่นดินไทยจำนวนมหาศาล ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทดีดตัวสูงขึ้นหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ ในขณะที่รัฐบาลไทยไม่มีข้อมูลใดๆ นำมาเปิดเผยให้ประชาชนไทยได้รับทราบเลย

 

“เห็นว่าหากรัฐบาลรู้ข้อมูลทั้งหมด ควรเปิดเผยข้อมูลและตัวเลขให้ประชาชนได้รับทราบว่า ที่จริงแล้วทรัพย์สินซึ่งเป็นของประเทศไทยที่กำลังจะยกให้กับต่างชาติ โดยเราได้ผลตอบแทนเพียงเพียงน้อยนิดนั้น มีมูลค่าเท่าใดกันแน่ แล้วเหตุใดเพียงแค่ข่าวลือว่าจะได้สิทธิสัมปทาน จึงสามารถสร้างทรัพย์สินให้กับบริษัทที่เป็นคู่กรณีกับ พล.อ. ประยุทธ์ เพิ่มขึ้นโดยคิดเป็นมูลค่ารวมนับแสนล้านบาท ซึ่งจริงๆ แล้วผลประโยชน์ที่ได้จากเมืองแร่ทองคำอาจจะเป็นหมื่นล้าน แสนล้าน ล้านล้าน หรือหลายสิบล้านล้านบาทก็ได้” น.ต. ศิธากล่าว

 

น.ต. ศิธาระบุด้วยว่า มีการอ้างว่าจะเกิดการจ้างงาน ประชาชนจะมีรายได้จำนวนหลายหมื่นล้านบาท ในเมื่อต้องใช้แรงงานคนไทยบนผืนแผ่นดินไทย เหตุใดจึงไม่ให้หน่วยงานของไทยหรือบริษัทมหาชนที่มีคนไทยถือหุ้นเข้าไปเป็นเจ้าของ รายได้หลายแสนล้านบาทปัจจุบัน ซึ่งอาจจะเป็นหลายล้านล้านบาทในอนาคตจะได้กระจายอยู่กับประชาชนคนไทย ไม่ใช่ไปสร้างกำไรให้กับคนชาติอื่น 

 

“ในส่วนการยกเลิกการสัมปทานเหมืองนั้น พล.อ. ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้า คสช. ได้สั่งยกเลิกด้วยตัวเอง อีกทั้งศาลยังเคยชี้ขาดว่าตำแหน่งหัวหน้า คสช. ไม่ถือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ดังนั้นเมื่อมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น จึงไม่ควรเอาความผิดพลาดซึ่งถือเป็นค่าโง่ส่วนตัวของตัวเองมาหักกลบลบหนี้กับทรัพยากรของประเทศชาติ โดยเอื้อประโยชน์มหาศาลให้กับคู่กรณี แบบนี้ถือว่าไม่เป็นธรรมต่อพี่น้องประชาชนซึ่งถือเป็นเจ้าของสมบัติชาติ” น.ต. ศิธากล่าว

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising