หลังจากช่วงเช้าวันที่ 19 เมษายน ตลาดการเงินทั่วโลกตกอยู่ภายใต้ความโกลาหลของสงครามอิสราเอล-อิหร่าน ทั้งตลาดหุ้นร่วง ขณะที่ราคาทองคำพุ่งรวมถึงน้ำมันพุ่งขึ้นถึง 3.63% แตะ 90.27 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล น้ำมันเวสต์เท็กซัสของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 3.66% สู่ 85.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
วันเดียวกัน กระทรวงพลังงานปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล 50 สตางค์ต่อลิตร เป็น 30.94 บาทต่อลิตร มีผลวันที่ 20 เมษายน 2567 หลังจากมาตรการตรึงราคาสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา โดยหลังจากนี้อาจจำเป็นต้องทยอยปรับขึ้นราคาเป็นแบบขั้นบันได จากเหตุสถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน ที่จะเข้ามากดดันราคาน้ำมันในตลาดโลก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- วิเคราะห์ ‘ลดราคาน้ำมันและค่าไฟฟ้า’ นโยบายว้าวุ่นที่เกาไม่เคยถูกที่คัน?
- ถอดรหัสค่าไฟแพง! ส่องวงจรกำหนดค่าไฟของประเทศไทย ใครรับบทอะไรบ้าง
- พื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา ‘ขุมทรัพย์พลังงาน OCA’ สำคัญต่อไทยอย่างไร?
ล่าสุด วีรพัฒน์ เกียรติเฟื่องฟู ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า วันที่ 19 เมษายน เป็นวันสุดท้ายของการสิ้นสุดมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 1 บาทของกระทรวงการคลัง และเพื่อเป็นการลดภาระให้กับประชาชนผู้ใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติให้รักษาระดับราคาน้ำมันดีเซล
โดยจะมีการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล 50 สตางค์ต่อลิตรไปพลางก่อน และอาจจำเป็นต้องทยอยปรับขึ้นราคาเป็นแบบขั้นบันได เนื่องจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงได้มีการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสถานะกองทุนฯ ติดลบไปแล้วกว่า 103,000 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 56,407 ล้านบาท ส่วนก๊าซ LPG ติดลบ 47,213 ล้านบาท
ช่วงที่ผ่านมามีการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ 4.77 บาทต่อลิตร หรือคิดเป็นเงินประมาณกว่า 8,000 ล้านบาทต่อเดือน
“หากไม่มีการชดเชย ราคาน้ำมันดีเซลที่แท้จริงจะอยู่ที่ประมาณ 36 บาทต่อลิตร และหากปล่อยให้มีการชดเชยราคาน้ำมันดีเซลในระดับเดิมต่อไปเรื่อยๆ จะทำให้กองทุนฯ ติดหนี้เพิ่มมากขึ้นอาจจะกระทบกับวินัยการเงินและระดับความน่าเชื่อถือของกองทุนฯ ได้”
วีรพัฒน์ยอมรับว่า สถานะกองทุนฯ มีหนี้คงค้างค่อนข้างสูง อีกทั้งสถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านที่เริ่มปะทุขึ้นอีกครั้งอาจส่งผลทำให้ราคาน้ำมันทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้น
ทั้งนี้ สัปดาห์หน้าต้องลุ้นว่ารัฐบาลจะมีมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ เข้าช่วยมาหรือไม่