รัฐบาลอัด 5 มาตรการท่องเที่ยว เร่งเครื่องก่อนช่วงไฮซีซั่น ทั้งมาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล การเร่งรัดการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายด้านฝึกอบรม ประชุม และสัมมนาของภาครัฐ ขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราภาษีสำหรับกิจการบันเทิงหรือหย่อนใจ และมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโรงแรมที่พัก
ขณะที่ เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคาดหวังว่า มาตรการต่างๆ นี้จะช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวไทยหันกลับมาเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปี 2568 ต่อเนื่องถึงปี 2569
1. มาตรการ ‘เที่ยวดี มีคืน’ ลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา สูงสุด 3 หมื่นบาท
มาตรการภาษีสำหรับบุคคลธรรมดา โดยบุคคลธรรมดาสามารถลดหย่อนค่าที่พักและค่าบริการของร้านอาหารได้ ไม่เกิน 20,000 บาท โดยแบ่งเป็น
- 10,000 บาทแรก ต้องมีหลักฐานเป็นใบกำกับภาษีแบบกระดาษ/ e-Tax Invoice
- 10,000 บาทถัดไป ต้องใช้ e-Tax Invoice เท่านั้น
เงื่อนไขการลดหย่อน สำหรับเมืองรอง vs. นอกจากเมืองรอง:
- เมืองรองได้ 1.5 เท่า
(หักลดหย่อนตามจำนวนที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 30,000 บาท)
- นอกจากเมืองรองได้ 1 เท่า
(หักลดหย่อนตามจำนวนที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท)
ระยะเวลาโครงการ: เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2568
ผู้ใช้สิทธิ: บุคคลธรรมดาผู้มีเงินได้ แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
ค่าใช้จ่ายที่ใช้สิทธิได้: ค่าที่พักในโรงแรม ค่าที่พักโฮมสเตย์ไทย และค่าที่พักในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม และค่าบริการของร้านอาหารตามจำนวนที่จ่ายจริงให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
2. ‘เที่ยวดี มีคืน’ ลดหย่อนภาษีสำหรับ บริษัท/ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
มาตรการภาษีสำหรับ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล โดยสามารถลดหย่อนค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องในการจัดอบรมสัมมนาภายในประเทศ
ระยะเวลาโครงการ : เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2568
ผู้ใช้สิทธิ : บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
เงื่อนไข เมืองรอง vs. นอกจากเมืองรอง :
- เมืองรอง หักรายจ่ายตามที่จ่ายจริงได้ 2 เท่า
- นอกจากเมืองรอง หักรายจ่ายตามที่จ่ายจริงได้ 1.5 เท่า
หมายเหตุ: ต้องใช้ e-Tax Invoice เท่านั้น เว้นค่าขนส่ง แต่ต้องมี e-Receipt
ค่าใช้จ่ายที่ใช้สิทธิได้ :
- รายจ่ายสำหรับการจัดสัมมนา ประกอบด้วย รายจ่ายค่าห้องสัมมนา ค่าห้องพัก ค่าขนส่ง หรือรายจ่ายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการอบรมสัมมนาภายในประเทศที่จัดให้แก่ลูกจ้าง และค่าบริการของผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยว
- กรณีที่การจัดอบรมสัมมนาครั้งหนึ่งๆ เกิดขึ้นในท้องที่เมืองรองและเมืองอื่นต่อเนื่องกัน ให้หักรายจ่ายที่สามารถแยกได้โดยชัดแจ้งว่าเกิดขึ้นในท้องที่ใด และให้หักรายจ่ายที่ไม่สามารถแยกได้โดยชัดแจ้งว่าเกิดขึ้นในท้องที่ใดได้ 1.5 เท่าของรายจ่ายตามที่จ่ายจริง
3. เร่งรัดเบิกจ่าย ค่าใช้จ่ายภาครัฐฯ ด้านการฝึกอบรม (Front Load)
มาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายด้านการฝึกอบรม ประชุม สัมมนาประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 (Front Load) ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และ อปท. โดยให้พิจารณาดำเนินการในจังหวัดท่องเที่ยวเมืองรองเป็นลำดับแรก
โดยกำหนดให้เร่งรัดการเบิกค่าใช้จ่ายในส่วนของการพัฒนาบุคลากรของหน่วยงานไม่น้อยกว่า 60% ของวงเงินฝึกอบรม ประชุม สัมมนา
นอกจากนี้ ยังกำหนดให้เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดผลการปฏิบัติราชการ (KPI) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ของหัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ (เฉพาะรัฐวิสาหกิจที่ดำเนินงานตามปีงบประมาณ) และ อปท.
ระยะเวลาโครงการ: เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคม 2568 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2569
หมายเหตุ: กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลางจะพิจารณาทบทวนความเหมาะสมของอัตราค่าเช่าที่พักและค่าอาหารสำหรับการจัดฝึกอบรมในประเทศเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน
พร้อมขอความร่วมมือกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ประสาน อปท. พิจารณาจัดอบรมสัมมนาในท้องถิ่นอื่น และให้รายงานผลการเบิกจ่ายดังกล่าวต่อคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐต่อไป
4. มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการปรับปรุงโรงแรมที่พัก
มาตรการหักรายจ่ายการต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยายออก หรือทำให้ดีขึ้นซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการ (โดยไม่ใช่เป็นการซ่อมแซมให้คงสภาพเดิม) 2 เท่า ของรายจ่ายตามที่จ่ายจริง
ระยะเวลา : 29 ตุลาคม 2568 – 31 มีนาคม 2569
ผู้ใช้สิทธิ : บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการโรงแรม
หมายเหตุ : สำหรับทรัพย์สิน ที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการ ประกอบด้วย
(1) อาคารถาวรที่มีไว้ใช้ในการประกอบกิจการโรงแรม
(2) เครื่องตกแต่งหรือเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นส่วนประกอบและยึดติดกับอาคารตาม (1) เป็นการถาวร
ทั้งนี้ ให้หักรายจ่ายเท่าแรกเป็นค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินตามปกติ และทยอยหักรายจ่ายเท่าที่ 2 เป็นระยะเวลา 20 รอบระยะเวลาบัญชีในจำนวนที่เท่ากันทุกปี โดยเริ่มตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีที่ได้เริ่มหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สิน
นอกจากนี้ รัฐบาลได้เตรียมแหล่งเงินสำหรับรองรับการปรับปรุงโรงแรมที่พัก โดยธนาคารออมสิน ซึ่งอยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไป
5. ลดอัตราภาษีกิจกรรมบันเทิง-หย่อนใจ
มาตรการขยายระยะเวลาการปรับลดอัตราภาษีสำหรับกิจการบันเทิงหรือหย่อนใจ ประเภทที่ 17.01 จาก 10% เป็น 5% ออกไปอีก 1 ปี
ระยะเวลา : 1 มกราคม – 31 ธันวาคม 2569
ผู้ใช้สิทธิ : กิจการบันเทิงหรือหย่อนใจ ประเภทที่ 17.01 อาทิ ไนต์คลับ ดิสโกเทค ผับ บาร์ ค็อกเทลเลาจน์ เป็นต้น
ขยายเวลาปรับลดอัตราภาษีตามมูลค่าจาก 10% เป็น 5% ออกไปอีก 1 ปี โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2569 สำหรับ
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังโดยกรมสรรพสามิตได้มีการบูรณาการร่วมมือกรมการปกครองให้นำผู้ประกอบการมาจดทะเบียนสถานประกอบการเพื่อขยายฐานภาษีสรรพสามิตต่อไป
เช็ค! รายชื่อ 55 จังหวัดท่องเที่ยวเมืองรอง
- ภาคเหนือ – เชียงราย, น่าน, พะเยา, แพร่, ลำปาง, ลำพูน, อุตรดิตถ์, แม่ฮ่องสอน
- ภาคตะวันตก – ตาก, ราชบุรี
- ภาคกลาง – กำแพงเพชร, ชัยนาท, นครนายก, นครสวรรค์, พิจิตร, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์, ลพบุรี, สมุทรสงคราม, สิงห์บุรี, สุโขทัย, สุพรรณบุรี, อ่างทอง, อุทัยธานี
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ – กาฬสินธุ์, ชัยภูมิ, นครพนม, บุรีรัมย์, บึงกาฬ, มหาสารคาม, มุกดาหาร, ยโสธร, ร้อยเอ็ด, ศรีสะเกษ, สกลนคร, สุรินทร์, หนองคาย, หนองบัวลำภู, อำนาจเจริญ, อุดรธานี, อุบลราชธานี, เลย
- ภาคตะวันออก – จันทบุรี, ตราด, ปราจีนบุรี, สระแก้ว
- ภาคใต้ – ชุมพร, ตรัง, นครศรีธรรมราช, นราธิวาส, ปัตตานี, พัทลุง, ระนอง, สตูล, ยะลา
เช็ค! รายชื่อพื้นที่บางอำเภอใน 15 จังหวัด
- กระบี่ – อำเภอเขาพนม, อำเภอปลายพระยา, อำเภอลำทับ
- กาญจนบุรี – อำเภอด่านมะขามเตี้ย, อำเภอท่าม่วง, อำเภอท่ามะกา, อำเภอบ่อพลอย, อำเภอพนมทวน, อำเภอเลาขวัญ, อำเภอหนองปรือ, อำเภอห้วยกระเจา
- ขอนแก่น – อำเภอกระนวน, อำเภอเขาสวนกวาง, อำเภอโคกโพธิ์ไชย, อำเภอชนบท, อำเภอชุมแพ, อำเภอซำสูง, อำเภอน้ำพอง, อำเภอโนนศิลา, อำเภอบ้านไผ่, อำเภอบ้านฝาง, อำเภอบ้านแฮด, อำเภอเปือยน้อย, อำเภอพระยืน, อำเภอพล, อำเภอภูผาม่าน, อำเภอภูเวียง, อำเภอมัญจาคีรี, อำเภอเวียงเก่า, อำเภอแวงน้อย, อำเภอแวงใหญ่, อำเภอสีชมพู, อำเภอหนองนาคำ, อำเภอหนองเรือ, อำเภอหนองสองห้อง, อำเภออุบลรัตน์,
- ฉะเชิงเทรา – อำเภอคลองเขื่อน, อำเภอท่าตะเกียบ, อำเภอบางน้ำเปรี้ยว,อำเภอแปลงยาว, อำเภอราชสาส์น, อำเภอสนามชัยเขต,
- ชลบุรี – อำเภอเกาะจันทร์, อำเภอบ่อทอง, อำเภอบ้านบึง, อำเภอพนัสนิคม, อำเภอพานทอง, อำเภอหนองใหญ่,
- เชียงใหม่ – อำเภอกัลยาณิวัฒนา, อำเภอไชยปราการ, อำเภอดอยเต่า, อำเภอดอยสะเก็ด, อำเภอดอยหล่อ, อำเภอพร้าว, อำเภอแม่แจ่ม, อำเภอแม่แตง, อำเภอแม่วาง, อำเภอแม่อาย, อำเภอเวียงแหง, อำเภอสะเมิง, อำเภอสันทราย, อำเภอสันป่าตอง, อำเภอสารภี, อำเภออมก๋อย, อำเภอฮอด,
- นครราชสีมา – อำเภอแก้งสนามนาง, อำเภอขามทะเลสอ, อำเภอขามสะแกแสง, อำเภอคง, อำเภอครบุรี, อำเภอจักราช, อำเภอเฉลิมพระเกียรติ, อำเภอชุมพวง, อำเภอโชคชัย, อำเภอด่านขุนทด, อำเภอเทพารักษ์, อำเภอโนนแดง, อำเภอโนนไทย, อำเภอโนนสูง, อำเภอบัวลาย, อำเภอบัวใหญ่, อำเภอบ้านเหลื่อม, อำเภอประทาย, อำเภอปักธงชัย, อำเภอพระทองคำ, อำเภอพิมาย, อำเภอเมืองยาง, อำเภอลำทะเมนชัย, อำเภอวังน้ำเขียว, อำเภอสีคิ้ว, อำเภอสีดา, อำเภอสูงเนิน, อำเภอเสิงสาง, อำเภอหนองบุญมาก, อำเภอห้วยแถลง,
- ประจวบคีรีขันธ์ – อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์, อำเภอกุยบุรี, อำเภอทับสะแก, อำเภอบางสะพาน, อำเภอบางสะพานน้อย,
- พระนครศรีอยุธยา – อำเภอท่าเรือ, อำเภอนครหลวง, อำเภอบางซ้าย, อำเภอบางบาล, อำเภอบางปะหัน, อำเภอบ้านแพรก, อำเภอผักไห่, อำเภอภาชี, อำเภอมหาราช, อำเภอลาดบัวหลวง, อำเภอวังน้อย, อำเภอเสนา, อำเภออุทัย,
- พังงา – อำเภอเมืองพังงา, อำเภอกะปง, อำเภอคุระบุรี, อำเภอทับปุด, อำเภอท้ายเหมือง, อำเภอเกาะยาว, อำเภอตะกั่วทุ่ง
- เพชรบุรี – อำเภอบ้านลาด, อำเภอหนองหญ้าปล้อง
- ระยอง – อำเภอเขาชะเมา, อำเภอนิคมพัฒนา, อำเภอบ้านค่าย, อำเภอบ้านฉาง, อำเภอปลวกแดง, อำเภอวังจันทร์
- สงขลา – อำเภอเมืองสงขลา, อำเภอกระแสสินธุ์, อำเภอคลองหอยโข่ง, อำเภอควนเนียง, อำเภอจะนะ, อำเภอเทพา, อำเภอนาทวี, อำเภอนาหม่อม, อำเภอบางกล่ำ, อำเภอระโนด, อำเภอรัตภูมิ, อำเภอสทิงพระ, อำเภอสะเดา, อำเภอสะบ้าย้อย, อำเภอสิงหนคร
- สระบุรี – อำเภอแก่งคอย, อำเภอเฉลิมพระเกียรติ, อำเภอดอนพุด, อำเภอบ้านหมอ, อำเภอวังม่วง, อำเภอวิหารแดง, อำเภอหนองแค, อำเภอหนองแซง, อำเภอหนองโดน
- สุราษฎร์ธานี – อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี, อำเภอกาญจนดิษฐ์, อำเภอคีรีรัฐนิคม, อำเภอเคียนซา, อำเภอชัยบุรี, อำเภอไชยา, อำเภอดอนสัก, อำเภอท่าฉาง, อำเภอท่าชนะ, อำเภอบ้านนาเดิม, อำเภอบ้านนาสาร, อำเภอพระแสง, อำเภอพุนพิน, อำเภอวิภาวดี, อำเภอเวียงสระ