สำนักข่าวนิกเคอิ เอเชีย รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนของประเทศไทย (BOI) ระบุว่า การลงทุนโดยตรงจากนักลงทุนต่างประเทศ (FDI) ในไทย ลดลงในปี 2563 ที่ผ่านมา ท่ามกลางวิกฤตการณ์โรคระบาดโควิด-19 อย่างไรก็ตาม เงินลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นเข้าสู่ไทยกลับเพิ่มขึ้น แซงหน้าประเทศจีนที่ก่อนหน้านี้เคยเป็นผู้ลงทุนชั้นนำในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
นิกเคอิระบุว่า บริษัทต่างชาติมีเงินลงทุนโดยตรงราว 2.131 แสนล้านบาท (7.14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ลดลง 54% โดยเอกสารขอรับการส่งเสริมการลงทุนลดลง 3% มาอยู่ที่ 907 รายการ
อย่างไรก็ตาม แบบคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากบริษัทญี่ปุ่นกลับเพิ่มขึ้น 10% คิดเป็นมูลค่าราว 7.59 หมื่นล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 36% ส่งผลให้ประเทศญี่ปุ่นกลับมาเป็นผู้ลงทุนในประเทศไทยสูงสุดอีกครั้ง
โดยโครงการที่ใหญ่ที่สุดคือโครงการของมิตซูบิชิ มอเตอร์ ที่ลงทุน 1.8 หมื่นล้านเยน (ราว 172 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 5,160 ล้านบาท) เพื่อติดตั้งอุปกรณ์สำหรับผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่โรงงานในภาคตะวันออกของไทย โดยได้รับการอนุมัติจาก BOI ในเดือนเมษายนปีที่ผ่านมา
ขณะที่บริษัทจากจีนยื่นคำขอรับการส่งเสริมต่อ BOI อันดับ 2 โดยมีคำขอ 3.14 หมื่นล้านบาท ลดลงเกือบ 90% จากปี 2562 ซึ่งเป็นปีที่บริษัทจากจีนเร่งย้ายกำลังการผลิตมายังประเทศไทย เพื่อลดความเสี่ยงจากการทำสงครามการค้าของสหรัฐฯ การเร่งลงทุนครั้งนั้นทำให้จีนกลายเป็นนักลงทุนอันดับต้นๆ เป็นครั้งแรกในปี 2562
ขณะที่บริษัทจากสหรัฐอเมริกาลงทุนในไทยเป็นอันดับที่ 3 ด้วยมูลค่า 2.45 หมื่นล้านบาท
เมื่อแบ่งตามกลุ่มอุตสาหกรรมพบว่า อุตสาหกรรมการแพทย์มีเงินลงทุนโดยตรงราว 2.22 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 2.6 เท่าของจำนวนเงินในปี 2562 โดยทาง BOI ได้ประกาศมาตรการลดหย่อนภาษีเมื่อเดือนเมษายน 2563 สำหรับบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์ ผลิตภัณฑ์ยา และผ้านอนวูฟเวนสำหรับหน้ากากอนามัย
“การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาเป็นทั้งความท้าทายและโอกาส ในขณะที่เศรษฐกิจโดยรวมมีการชะลอตัวในปี 2563 ธุรกิจที่สามารถขยายตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงวิกฤต เช่น ภาคการแพทย์ กลับได้เห็นการขอการส่งเสริมการลงทุนเพิ่มขึ้น” ดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน กล่าว
สำหรับแผนงานปีนี้ของ BOI อุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง และเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับประเทศไทย จะได้รับการสนับสนุน อาทิ กลุ่มการแพทย์ เทคโนโลยีชั้นสูง ธุรกิจและโครงสร้างพื้นฐาน
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: