บลูมเบิร์กเปิดเผยผลสำรวจกลุ่มประเทศในตลาดเกิดใหม่ทั้ง 17 ประเทศ ผ่านตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจและการเงิน 11 มิติ พบว่า ประเทศไทยเป็นอันดับต้นๆ ของการสำรวจ
โดยประเทศไทยเป็นอันดับ 1 ของผลการสำรวจ เนื่องจากมีทุนสำรองที่มั่นคง และมีศักยภาพสูงที่จะดึงดูดเม็ดเงินลงทุนเข้าสู่ประเทศ โดยไทยได้รับการคาดการณ์ GDP ปีหน้า จะขยายตัว 3.9% ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัดต่อ GDP จะเกินดุล 3.1% และดุลงบประมาณต่อ GDP จะขาดดุล 4.9% อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาไม่มีประเทศไหนเกินดุล ขณะที่หนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ที่ 41%
ขณะที่รัสเซียได้คะแนนอันดับ 2 เนื่องจากบัญชีภายนอกที่แข็งแกร่ง และโปรไฟล์ทางการเงินที่แข็งแกร่ง ส่วนผลคะแนนท้ายตารางเป็นของประเทศจีน เนื่องจากมีความคาดหวังสูงอยู่แล้ว รวมทั้งบราซิลที่คะแนนค่อนข้างแย่ เนื่องจากขาดดุลการคลัง และมีความน่ากังวลด้านหนี้
จากการสำรวจพบว่า หลายประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ พร้อมที่จะฟื้นฟูความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นแล้ว โดยพบว่าเงินสำรองต่างประเทศของกลุ่มตลาดเกิดใหม่ค่อนข้างแข็งแกร่ง และจะช่วยซับแรงสะเทือนจากปัจจัยลบภายนอก ส่วนการประเมินสัดส่วนหนี้ต่อจีพีดีอย่างระมัดระวัง ก็จะช่วยควบคุมความเสี่ยงและสร้างเสถียรภาพทางการเงินได้
สินทรัพย์ประเทศกำลังพัฒนากำลังฟื้นตัวขึ้นถ้วนหน้า เนื่องจากนโยบายการเงินและการคลังที่ผลักดันกระแสเงินสดเข้าสู่ระบบในปริมาณที่มากอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ทั้งนี้ เพื่อสู้กับโรคระบาด ในขณะที่เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังฟื้นตัว และธนาคารกลางสหรัฐฯ เองยังคงอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำ ความเสี่ยงน่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2564 ท่ามกลางมูลค่าสินทรัพย์ที่ดีและผลตอบแทนที่แท้จริง ที่ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ
และเพื่อช่วยในการเลือกว่าตลาดเกิดใหม่ใดจะรับมือกับความท้าทายและโอกาสเหล่านั้นได้ดีกว่าคู่แข่ง บลูมเบิร์กได้สรุปสถิติโดยย่อ ดังนี้
การเยียวยาความเสียหายจากโรคระบาดที่มีพัฒนาการ
กลุ่มประเทศยากจนและด้อยพัฒนามีความกังวลว่าจะถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และไม่อาจเข้าถึงวัคซีนต้านโควิด-19 ขณะที่กลุ่มประเทศผู้นำ อย่างสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรได้รับความสนใจอย่างมากในฐานะผู้ผลิตวัคซีน จนสามารถคาดหวังได้ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวในเร็ววัน
ส่วนประเทศตลาดเกิดใหม่ได้ดึงความสนใจไปสร้างการเติบโตของเศรษฐกิจในช่วงโควิด-19 ได้ โดยเฉพาะประเทศที่พึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก อย่างประเทศไทย
โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์กันว่า เศรษฐกิจของประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากโควิด-19 ในปีนี้ จะฟื้นตัวและเห็นการเติบโตอย่างมากในปี 2564 โดย Top 5 ของประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตสูงมาก ล้วนมาจากเอเชียทั้งสิ้น นำโดย อินเดีย จีน และฟิลิปปินส์
การปลดล็อกดาวน์
โกลแมน แซคส์ กรุ๊ป ระบุว่า เมื่อสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้แล้ว ประเทศกำลังพัฒนาส่วนใหญ่จะได้รับอานิสงส์อย่างมากจากการกลับมาเปิดให้ทำกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ตามปกติ ซึ่งในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ มาเลียเซียและชิลีมีความโดดเด่นที่สุด
ช่องโหว่ของโครงสร้างเศรษฐกิจ
ด้วยโครงสร้างทางเศรฐกิจที่แย่ลง เมื่อเกิดโรคระบาดขึ้น ทำให้ได้รับความเสียหายอย่างมาก การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของประเทศโคลอมเบียและตุรกี ทำให้มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบเชิงลบมากขึ้น ขณะที่การขาดดุลการคลังของบราซิล แอฟริกาใต้ และฟิลิปปินส์ ได้เพิ่มภาระหนี้ของรัฐบาลที่สูง นอกจากนี้ ภาระหนี้ในแอฟริกาใต้ ฮังการี อินเดีย และบราซิล ได้สร้างความกังวลอย่างต่อเนื่อง
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: