สถานการณ์ความไม่แน่นอนของการเมืองไทยยังคงอยู่ในความสนใจจากทั่วโลก โดยสื่อต่างชาติหลายสำนักเกาะติดความเคลื่อนไหวของไทยที่เตรียมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในรัฐสภาวันพรุ่งนี้ (5 กันยายน)
Reuters รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็น “การแย่งชิงอำนาจอย่างรุนแรงในประเทศไทย” นับตั้งแต่ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยถอดถอนแพทองธาร ชินวัตร จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนครั้งล่าสุดในความขัดแย้งอันวุ่นวายระหว่างชนชั้นนำทางการเมืองของไทย
Reuters ชี้ว่า พรรคเพื่อไทยที่นำโดยตระกูลชินวัตร ต้องพยายามอย่างหนักเพื่อไม่ให้สูญเสียความนิยม โดยพยายามเจรจาต่อรองกับพรรคประชาชนในการขอเสียงสนับสนุนโหวตนายกรัฐมนตรี ก่อนที่พรรคประชาชนจะประกาศสนับสนุนอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เพื่อแลกกับคำมั่นสัญญาในการยุบสภาภายใน 4 เดือน
ด้าน The Guardian หนังสือพิมพ์รายวันของอังกฤษ พาดหัวข่าวในหน้าเว็บไซต์ ระบุถึงอนุทิน ว่า “เจ้าพ่อเมืองไทยผู้ผลักดันกฎหมายกัญชา ขึ้นนำในศึกชิงตำแหน่งนายกฯ” หลังได้เสียงสนับสนุนจากพรรคฝ่ายค้านหลักอย่างพรรคประชาชน และชี้ว่าการประกาศสนับสนุนอนุทินของพรรคประชาชนในครั้งนี้ อาจสร้างความเสียหายครั้งใหญ่ต่อทักษิณ ซึ่งมีบทบาทครองอำนาจทางการเมืองมาหลายทศวรรษ แต่ขณะนี้อิทธิพลและความนิยมของเขากำลังลดลง
สำนักข่าว AP บรรยายบทบาททางการเมืองที่ผ่านมาของอนุทิน วัย 58 ปี ทั้งในรัฐบาลผสมที่นำโดยพรรคเพื่อไทย ซึ่งครองอำนาจในปี 2023 และก่อนหน้านั้นยังเคยดำรงตำแหน่งในรัฐบาลที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพ ภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
AP ระบุว่า อนุทินเป็นที่รู้จักจากความสำเร็จในการล็อบบี้เพื่อยกเลิกกฎหมายกัญชา ซึ่งขณะนี้นโยบายกำลังอยู่ในขั้นตอนการควบคุมอย่างเข้มงวดมากขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ และนอกจากนี้ เขายังมีบทบาทสำคัญในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในช่วงการระบาดของโควิด-19 ซึ่งเขาถูกกล่าวหาว่า จัดหาวัคซีนป้องกันโรคได้ล่าช้า
ขณะที่รายงานของ Bloomberg ชี้ว่า วิกฤตการเมืองไทยทวีความรุนแรงขึ้นจากการแข่งขันชิงอำนาจในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และมองว่า “สถานการณ์ตึงเครียดที่ยังไม่สิ้นสุดนี้ น่าจะยิ่งตอกย้ำประวัติศาสตร์ความไม่มั่นคงทางการเมืองอันยาวนานของไทย
ความเห็นดังกล่าวสอดคล้องกับบทวิเคราะห์จาก Observer Research Foundation (ORF) สถาบันวิจัยอิสระระดับโลกในอินเดีย ที่มองว่าประเทศไทยเสี่ยงที่จะเข้าสู่วัฏจักรแห่งความไร้เสถียรภาพอีกครั้ง โดยการเปลี่ยนแปลงผู้นำบ่อยและการแทรกแซงของฝ่ายตุลาการ อาจบั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย
สำหรับพรรคเพื่อไทยและพรรคการเมืองอื่นๆ ORF ชี้ว่า ความท้าทายในตอนนี้ไม่ใช่แค่การหานายกรัฐมนตรีคนใหม่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการพิสูจน์ว่า พรรคจะยังคงสามารถบริหารประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ ภายใต้แรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากองค์กรที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง
อ้างอิง:
- https://www.reuters.com/world/asia-pacific/thailands-ruling-party-seeks-snap-election-thwart-rivals-pm-bid-2025-09-03/
- https://apnews.com/article/thailand-politics-prime-minister-election-acc8c1ec0efeeb05b31fda89d4e1d45d
- https://www.theguardian.com/world/2025/sep/03/thailand-elections-tycoon-championed-cannabis-legalisation-takes-lead-pm-race
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2025-09-03/largest-thai-party-backs-anutin-as-pm-to-end-political-deadlock
- https://www.orfonline.org/expert-speak/thailand-s-political-conundrum-implications-for-democracy-and-stability