×

โปรดเกล้าฯ พ.ร.บ.ประชามติ ฉบับปี 2568 มีผลบังคับใช้ 22 ต.ค. นี้ เปิดทางจัดประชามติพร้อมวันเลือกตั้ง ลดภาระรัฐ – ประชาชน

โดย THE STANDARD TEAM
21.10.2025
  • LOADING...

วันนี้ (21 ตุลาคม) ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป โดยมีทั้งหมด 12 มาตรา

 

สาระสำคัญของการแก้ไขครั้งนี้มุ่งเน้นเพื่อเพิ่มความสะดวกให้ประชาชน ลดภาระของหน่วยงานรัฐ และปรับปรุงขั้นตอนการออกเสียงให้ทันสมัยและยืดหยุ่นมากขึ้น

 

แก้กฎหมายเปิดทางจัดประชามติพร้อมวันเลือกตั้ง

 

เหตุผลสำคัญของการตราพระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ กฎหมายเดิม พระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 ไม่ได้เปิดทางให้วันออกเสียงประชามติสามารถจัดขึ้น พร้อมกับวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (กรณีเลือกตั้งทั่วไป) หรือ วันเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น ได้

 

เมื่อมีการจัดประชามติในช่วงเวลาใกล้กับการเลือกตั้ง จึงจำเป็นต้องกำหนดวันออกเสียงแยกต่างหาก ซึ่งส่งผลให้เกิด ภาระด้านงบประมาณแผ่นดิน และ ภาระกับประชาชนที่ต้องเดินทางไปใช้สิทธิหลายครั้ง

 

ดังนั้น กฎหมายฉบับใหม่นี้จึง เปิดทางให้วันออกเสียงประชามติสามารถตรงกับวันเลือกตั้งได้ โดยให้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หารือร่วมกันเรื่องค่าใช้จ่ายและการดำเนินการ

 

ขยายวิธีการออกเสียง – ไม่จำกัดเฉพาะบัตรกระดาษ

 

อีกจุดสำคัญคือ การปรับปรุงวิธีการออกเสียง จากเดิมที่กฎหมายกำหนดให้ ใช้บัตรออกเสียงเป็นหลัก และอนุญาตให้ใช้วิธีอื่นได้ตามดุลพินิจของ กกต.

 

ฉบับใหม่ระบุให้สามารถ กำหนดวิธีการออกเสียงโดยรูปแบบต่าง ๆ ได้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ กกต. เห็นสมควร เพื่อให้ ประชาชนมีความสะดวกและเข้าถึงการออกเสียงมากขึ้น อาจรวมถึงการใช้เทคโนโลยีหรือช่องทางสมัยใหม่ในอนาคต

 

ปรับเกณฑ์การนับคะแนน ต้องมากกว่าเสียง ‘ไม่แสดงความเห็น’

 

ในส่วนของการพิจารณาผลประชามติ กฎหมายฉบับนี้กำหนดว่า

 

เสียงข้างมากของผู้มาออกเสียงจะเป็นข้อยุติของเรื่องที่จัดทำประชามติ โดยมีเงื่อนไขเพิ่มเติมว่า

 

คะแนนเสียงข้างมากจะต้อง ‘สูงกว่าคะแนนเสียงไม่แสดงความเห็น’ ในเรื่องที่ทำประชามตินั้น

 

เพื่อให้ผลประชามติมีน้ำหนักและสะท้อนเจตนาของผู้มีสิทธิออกเสียงที่แสดงความเห็นจริงๆ

 

ห้ามชี้นำ – ต้องเผยแพร่ข้อมูลรอบด้านอย่างเท่าเทียม

 

กฎหมายยังย้ำให้การจัดทำและเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องที่จะทำประชามติ ต้องไม่เป็นการชี้นำ ให้ผู้ออกเสียงเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

 

นอกจากนี้ เมื่อมีการประกาศกำหนดวันออกเสียงแล้ว กกต. ต้องดำเนินการดังนี้

 

  • เผยแพร่กระบวนการและขั้นตอนการออกเสียง ให้ประชาชนผู้มีสิทธิได้รับทราบอย่างทั่วถึง

 

  • จัดให้มีการแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระและเท่าเทียมกัน ทั้งฝ่ายเห็นชอบ ฝ่ายไม่เห็นชอบ หรือฝ่ายที่มีความคิดเห็นแตกต่าง เพื่อให้กระบวนการประชามติเป็นไปอย่างโปร่งใสและรอบด้าน

 

กกต. มีอำนาจกำหนดหลักเกณฑ์การจัดการออกเสียง

 

สุดท้าย กฎหมายฉบับนี้กำหนดให้ เขตการออกเสียง หน่วยออกเสียง และที่ออกเสียง เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด เพื่อให้เหมาะสมกับบริบทในแต่ละพื้นที่และรูปแบบของการออกเสียง

 

อ้างอิง: https://ratchakitcha.soc.go.th/documents/81806.pdf

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising