×

ไทยเตรียมแจ้งเกิด ‘แบรนด์ EV แห่งชาติ’ จากความร่วมมือค่ายรถจีน CHERY-KGEN กับรัฐบาลไทย

19.05.2025
  • LOADING...
แบรนด์ EV แห่งชาติ

นับตั้งแต่ต้นปี 2568 จะเห็นหลายค่ายรถยนต์ EV เริ่มเข้ามาทำตลาดและตั้งโรงงานผลิตรถพวงมาลัยมือขวาในไทยหลายแบรนด์ ซึ่ง BOI ระบุว่า ในช่วง 3 ปี ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น จีน ยุโรป ยื่นคำขอลงทุน EV ในไทยสูงถึง 644 โครงการ 2.8 แสนล้านบาท

 

ล่าสุด ค่ายรถยักษ์ใหญ่จากจีน CHERY และ OMODA & JAECOO ถือเป็นค่ายรถจีนรายที่ 8 ที่เข้ามาตั้งฐานผลิตในไทย ซึ่งมาพร้อมกับการจับมือกับ “KGEN” ร่วมพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าร่วมรัฐบาลสู่ ‘แบรนด์ไทย’ หวังยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมยานยนต์ ฮับ EV ในภูมิภาค

 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


 

ฉี เจี๋ย ประธาน บริษัท โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) กล่าวว่า การเดินสายการผลิตที่โรงงานระยองนับเป็นก้าวสำคัญ ซึ่งเป็นการลงทุนระยะยาวในประเทศไทย 

 

“ไทยมีศักยภาพหลายๆ ด้าน และตลาดมีการเติบโตต่อเนื่อง บริษัทจึงตั้งเป้าให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค ซึ่งจะเริ่มต้นด้วยการนำเอารุ่น JAECOO 6 EV ที่ใช้นวัตกรรมระดับโลกแข่งขันในตลาด”

 

 

 

อีกทั้ง เร็วๆ นี้ CHERY Automobile ยังจับมือบริษัท คิง เจน จำกัด (มหาชน) หรือ KGEN ภายใต้นโยบายการสนับสนุนการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.), สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และนโยบายการสนับสนุนการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศจากกระทรวงพาณิชย์ ร่วมพัฒนาแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทย เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิต EV ในภูมิภาคอาเซียน 

 

“ความร่วมมือครั้งนี้ มุ่งเน้นพัฒนาแบรนด์ EV แห่งชาติของไทย ส่งเสริมขีดความสามารถด้านเทคโนโลยี EV และสนับสนุนผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศให้เข้าสู่ห่วงโซ่อุปทานระดับโลก ที่เน้นจุดเด่นด้านเทคโนโลยี EV และราคาที่เข้าถึงได้ ให้คนไทยสามารถเปลี่ยนมาใช้ EV ง่ายขึ้น”

 

นอกจากนี้ โครงการนี้ยังได้เปรียบด้านภาษีในฐานะ ‘รถยนต์สัญชาติไทย’ เพื่อสร้างระบบราคาที่เหมาะสม พร้อมกระตุ้นห่วงโซ่การผลิตภายในประเทศ ตั้งแต่การจัดหาชิ้นส่วน การจ้างงาน ไปจนถึงการพัฒนาเครือข่ายบริการหลังการขายให้ครอบคลุมยิ่งขึ้นในทุกภูมิภาค

 

“ตัวเลขสัดส่วนร่วมทุน เราเพิ่งเริ่มหารือ จึงยังไม่สามารถบอกได้ แต่เบื้องต้นอัตราส่วนการถือหุ้น ร่วมรัฐบาล โรงงาน KGEN ก็ได้เข้ามาถือหุ้น ราคาและรายละเอียดยังอยู่ระหว่างปรับ ซึ่ง ไตรมาส3-4 จะชัดเจน” ฉี กล่าว

 

ด้านเฉิน ชุนชิง รองประธาน เชอรี่ อินเตอร์เนชันแนล กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นตลาดที่เติบโต และได้วางเป็นตลาดยุทธศาสตร์สำคัญของ CHERY และ OMODA & JAECOO หรือ โอโมด้า แอนด์ เจคู่ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

ดังนั้น การประกาศความพร้อมและแผนการลงทุนในครั้งนี้ สะท้อนความมุ่งมั่นที่มีต่อตลาดไทย ถือเป็นก้าวสำคัญในวิสัยทัศน์ระยะยาวเพื่อสร้างฐานการผลิตที่แข็งแกร่งในภูมิภาค 

 

ทุ่ม 5,000 ล้าน พร้อมประเดิมเดินเครื่องผลิตJAECOO 6 EV Q3/68 โรงงาน จ.ระยอง

 

เฉิน กล่าวถึงแผนการลงทุนสร้างโรงงานจ.ระยอง อีกว่า CHERY และ OMODA & JAECOO เดินหน้าก่อสร้างโรงงานในประเทศไทย ที่อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง บนพื้นที่ 104 ไร่ 

 

ด้วยมูลค่าการลงทุนที่วางแผนไว้ทั้งสิ้นราว 5,000 ล้านบาท พร้อมเริ่มเดินสายการผลิตที่โรงงานใน ไตรมาส 3 ปี 2568 โดยตั้งเป้ากำลังการผลิตเป็น 80,000 คันต่อปีภายในปี 2571 ซึ่งจะเริ่มการผลิต JAECOO 6 EV เป็นรุ่นแรกเพื่อเป็นศูนย์กลางการผลิตและส่งออกในเอเชีย

 

สำหรับโรงงานแห่งนี้จะเน้นการผลิตแบบ Completely Knocked Down (CKD) พร้อมติดตั้งหุ่นยนต์เชื่อมสำหรับการเชื่อมอะลูมิเนียม นอกจากนี้ ในอนาคตยังมีแผนการลงทุนในการผลิตยานยนต์เพิ่มเติม ทั้งขยายกำลังการผลิตและโมเดลไฟฟ้าไฮบริด (HEV) รถยนต์รุ่นอื่นๆ ของ CHERY Group และการจัดตั้งโรงพ่นสีภายในปี 2570 รวมถึงการให้ความสำคัญในการจัดจ้างงานคนไทย

 

“เริ่มต้นจะเป็นแรงงานไทย 150 คน สำหรับการทำงานกะเดียว และจะขยายโรงงานและอัตราการจ้างแรงงานไทยเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของประเทศไทย ”

 

สำหรับ Chery Automobile Co., Ltd. ก่อตั้งขึ้นในปี 1997 เป็นแบรนด์รถยนต์ระดับโลกที่ตั้งอยู่ในประเทศจีน มีศูนย์วิจัยและพัฒนาขึ้นในประเทศจีน เยอรมนี สหรัฐอเมริกา และบราซิล 

 

นอกจากนี้ ยังได้จัดตั้งทีมวิจัยและพัฒนายานยนต์ระดับโลกที่มีบุคลากรมากกว่า 25,000 คน เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทอีกมากมาย ถือเป็นแบรนด์ที่มีผลิตภัณฑ์ระดับไฮเอนด์ โดยมียอดขายสะสมทั่วโลกมากกว่า 15 ล้านคัน และเป็นบริษัทรถยนต์แห่งแรกของจีนที่ส่งออกยานยนต์ ชิ้นส่วน CKD เครื่องยนต์ และเทคโนโลยีการผลิตยานยนต์และอุปกรณ์ไปทั่วโลก 

 

ปัจจุบัน Chery ดำเนินธุรกิจในหลายภูมิภาคทั่วโลกครอบคลุม 110 ประเทศ และตั้งโรงงานในต่างประเทศ 16 แห่ง มีตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการในต่างประเทศมากกว่า 2,680 แห่ง มีผู้ใช้เกือบ 15 ล้านคนทั่วโลก รวมถึงผู้ใช้จำนวน 4.5 ล้านคนนอกประเทศจีน

FYI
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising