วันนี้ (14 มิถุนายน) เป็นการแข่งขันนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม เอเชียนคัพ 2023 กลุ่ม C ที่มาร์กาซีย์ สเตเดียม ประเทศอุซเบกิสถาน โดยเป็นเกมตัดสินแชมป์กลุ่ม ระหว่างฟุตบอลทีมชาติไทยที่เก็บได้ 6 คะแนนเต็ม มาพบกับอุซเบกิสถาน เจ้าภาพจัดการแข่งขันที่มี 6 แต้มเท่ากัน แต่ได้เปรียบผลต่างประตูได้เสียอยู่ 2 ประตู
โดยไทยการันตีสิทธิ์เข้ารอบสุดท้ายของเอเชียนคัพ 2023 จากที่ฟิลิปปินส์แพ้ปาเลสไตน์ 0-4 ส่งผลให้ไทยเป็น 1 ใน 5 ทีม อันดับ 2 ที่ดีที่สุดเป็นอย่างน้อย ก่อนลงสนามนัดสุดท้ายกับทีมชาติอุซเบกิสถาน
เกมนี้ มาโน โพลกิง ปรับทัพอีกครั้ง เลือกใช้ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ลงกองหลังแทน วีระเทพ ป้อมพันธุ์ คู่กับ พรรษา เหมวิบูลย์ กองกลางเป็นชุดเดิม พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล, สารัช อยู่เย็น และ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์
แดนหน้าเป็น ศศลักษณ์ ไหประโคน ที่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในเกมนี้แทน ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ ส่วนกองหน้าเป็น ชญาวัต ศรีนาวงษ์ แทน ธีรศิลป์ แดงดา
เริ่มเกม อุซเบกิสถานขึ้นนำไทยไปก่อน 2-0 จากลูกยิงของ มาชาริปอฟ และ เทอร์กุนโบเยฟ รูปเกมในครึ่งแรกอุซเบกิสถานมีความแม่นยำกว่าทั้งจังหวะจ่ายบอลที่เด็ดขาดและโต้กลับไทยได้อย่างรวดเร็ว
ครึ่งหลังอุซเบกิสถานยังคงรออาศัยเกมสวนเข้าโจมตีเกมรับไทย แต่สุดท้ายไม่มีประตูเกิดขึ้น ส่งผลให้ไทยพ่ายให้กับอุซเบกิสถานในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มไป 0-2 จบในตำแหน่งรองแชมป์กลุ่ม C
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลเอเชียนคัพ 2023 รอบสุดท้ายจะแข่งขันกันระหว่างวันที่ 16 มิถุนายน – 16 กรกฎาคม 2023 โดยขณะนี้ยังไม่มีเจ้าภาพจัดการแข่งขัน หลังจากที่จีนถอนตัวจากการเป็นเจ้าภาพ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด