เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา รายการ THE STANDARD NOW ดำเนินรายการโดย อ๊อฟ-ชัยนนท์ หาญคีรีรัตน์ เผยแพร่ทาง Facebook และ YouTube ของ THE STANDARD สัมภาษณ์ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรณีมีกลุ่มทุนจีนผู้ประกอบธุรกิจผิดกฎหมายและการก่ออาชญากรรมในไทย
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์กล่าวว่า ขบวนการเหล่านี้เป็นขบวนการที่เปลี่ยนแปลงมาจากทัวร์ศูนย์เหรียญในอดีต ซึ่งตนเองได้รับการมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้ปราบปรามเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
ความจริงแล้วกลุ่มทุนเหล่านี้ก็เป็นกลุ่มทัวร์ศูนย์เหรียญ แต่หลังจากมีการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญไปจนหมดแล้ว และด้วยสถานการณ์โควิดทัวร์ก็ไม่สามารถกลับมาได้แล้ว กลุ่มทุนเหล่านี้จึงปรับรูปแบบใหม่ไปเป็นบ่อน เป็นบาร์ศูนย์เหรียญแทน ฉะนั้น รูปแบบลักษณะบาร์จะพบว่าเป็นการมาเที่ยว คนไทยจะไม่ทราบเลยว่ารูปแบบบาร์เหล่านี้เป็นเช่นไร
แต่คนจีนในต่างประเทศจะทราบว่า เวลาเดินทางมาเมืองไทยใช้แอปพลิเคชัน WeChat เขาจะทราบรูปแบบสถานบริการเหล่านี้ เช่น กรณีสุทธิสารที่มีชาวจีนเสียชีวิต ชาวจีนเหล่านี้เป็นลูกคนที่มีฐานะ เดินทางมาจากสิงคโปร์ เป็นผู้หญิง 4 คน มาถึงไทย 15 กันยายน พอวันที่ 16 กันยายน ก็มาเที่ยวสถานบริการโดยติดต่อให้สถานบริการเตรียมหาผู้ชายมาเอ็นเตอร์เทน จะเห็นได้ชัดเจนว่ามีบริการครบวงจร ทั้งผู้ชายผู้หญิงเอ็นเตอร์เทน เหล้า บุหรี่ รวมถึงยาเสพติด
“เรื่องนี้ต้องเรียนว่าผมไม่ทราบมาก่อน แต่ผมเริ่มฉงนใจตั้งแต่ทราบข่าวข้อมูลจากสื่อจีนที่เข้ามาหา เขาบอกว่ามีคนจีนเสียชีวิตอยู่ในท็อปวัน แล้วตอนนี้เป็นที่โจษจันในประเทศจีนมาก แต่ไม่มีการดำเนินการ
ผมจึงเรียกข้อมูลจากผู้กำกับสถานีตำรวจนครบาล (สน.) สุทธิสาร ปรากฏว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นมาไม่ต่ำกว่า 1 เดือนแล้ว แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าทางคดี จึงนำสำนวนรายละเอียดมาดู ปรากฏว่าไม่มีการดำเนินการอะไรทั้งสิ้น อันนี้ต้องเรียนตรงๆ และได้นำเรียนท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ไปแล้ว
หลังจากนั้นต่อม จึงตรวจสอบทั้งหมด แล้วพบว่าผู้หญิงคนดังกล่าวเสียชีวิตด้วยสารเสพติด จากการชันสูตร ผ่าศพ มีสารเสพติดในร่างกายเกินขนาด ประกอบกับมีแอลกอฮอล์ในร่างกายสูง ก็เลยชักแล้วเสียชีวิต
หนำซ้ำหลังจากเสียชีวิตตอน 03.00 น. แล้ว รุ่งขึ้นคนจีนประมาณ 4 คนไปที่ห้องพักผู้หญิงคนดังกล่าวที่โรงแรมในพื้นที่ สน.ลุมพินี ใช้กุญแจเปิดเข้าไปในห้อง นำสิ่งของออกไปเผาเพื่อจะอำพรางทั้งหมดว่าการตายไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถานบริการแห่งนี้ อันนี้เป็นเหตุที่ผมเริ่มตรวจสอบ
พอเริ่มไล่จับกุมทั้งคนไทยคนจีน จึงเริ่มรู้แล้วว่าขบวนการนี้เป็นอย่างนี้ ยังไม่ทันไรก็เกิดเหตุที่พื้นที่ยานนาวาอีกรอบ จึงกลายเป็นเรื่องใหญ่โตขึ้นมา แล้วยังไม่ทันไรก็ไปเกิดเหตุที่พัทยาอีกรอบหนึ่ง
สรุปเมื่อตรวจสอบแล้วก็เป็นกลุ่มคนจีนที่เป็นเครือข่ายเดียวกันทั้งหมด เข้ามาในประเทศไทยโดยมีคนไทยให้ความช่วยเหลือ ถ้าไม่มีคนไทยให้ความช่วยเหลือ กลุ่มคนจีนที่กระทำผิดกฎหมายแบบนี้จะไม่สามารถทำแบบนี้ในประเทศไทยได้”
ผู้ดำเนินรายการถามว่า จีนปิดประเทศอยู่ แล้วคนจีนเหล่านี้ออกมาได้อย่างไร นอกจากมีคนไทยช่วยแล้ว ตำรวจมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้ต้องเรียนตรงๆ และได้นำเรียนท่าน ผบ.ตร. ไปแล้ว ข้อแรกต้องไล่ดูตั้งแต่เรื่องการเข้ามาของคนจีนในไทยก่อนว่า เขาเข้ามาแล้วอยู่ได้อย่างไร วันนี้ถ้าตรวจสอบการเข้ามา ไล่เรียงมาตั้งแต่เรื่องผับ บาร์ และเรื่องคนจีนที่อุ้มคนจีนด้วยกันแล้วตัดนิ้วล่าสุดที่พัทยา ซึ่งเราจับตัวผู้ต้องหาได้แล้ว 1 คน
จะเห็นได้ว่าเป็นการเข้ามาในลักษณะใช้วีซ่าท่องเที่ยวก่อน หลังจากนั้นแล้วเมื่อครบระยะเวลา 90 วันก็ไปขอเปลี่ยนวีซ่าของตัวเอง เรียกว่าเป็น Non-ED Visa ก็คือเป็นวีซ่านักเรียน เพื่อให้ตัวเองสามารถที่จะอยู่ในประเทศไทยต่อได้
เพราะฉะนั้นได้เรียกผู้กำกับกองตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) สารวัตรใหญ่ ตม. มาพบ เรื่องการต่อวีซ่าให้เขาเป็นนักเรียน ขณะที่ทราบอยู่แล้วว่าอายุขนาดนี้เขาไม่ใช่นักเรียน แล้วไปต่อให้เป็นนักเรียนได้อย่างไร เพราะการจะไปต่อให้เป็นนักเรียนต้องตรวจดูด้วยว่าเขาเรียนโรงเรียนไหน อย่างไร ถึงแม้จะมีหนังสือรับรองจากโรงเรียนมาก็ตาม โดยเซนส์ของตำรวจซึ่งทำหน้าที่คัดกรองบุคคลมาเป็นสิบๆ ปี ฉะนั้นในส่วนเหล่านี้ได้นำเรียนท่าน ผบ.ตร. ไปแล้วว่า ตม. เป็นด่านแรกในการคัดกรองคนดี คนร้าย ฉะนั้น ตม. ต้องคัดกรองคนดีเข้าประเทศ ไม่ใช่คัดกรองเอาคนร้ายเข้าประเทศ
“ผมในฐานะอดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) วันนี้ต้องพิจารณาทั้งหมด ส่วนไหนที่เป็นความผิดอาญาก็ต้องดำเนินคดีอาญาไป”
ผู้ดำเนินรายการถามว่า พอจะปรากฏภาพหรือหลักฐานชัดเจนมากขึ้นหรือไม่ หากเริ่มจากด่านแรกคือ ตม. แล้วมีเจ้าหน้าที่ ตม. ที่เรียกรับผลประโยชน์จากคนจีนหรือไม่ เพื่อแลกกับการออกวีซ่า มีภาพตรงนั้นชัดเจนขึ้นหรือไม่
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า วันนี้เห็นภาพชัดเจนขึ้นเยอะ ในเรื่องนี้มีหลายส่วน ตั้งแต่ ตม. แล้ววันนี้ท่าน ผบ.ตร. เพิ่งมอบหมายให้ดำเนินคดีแจ้งข้อกล่าวหาเรื่องการเป็นเจ้าพนักงานละเว้น หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 กับพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา 2 คน และรองผู้กำกับจราจร สน.ลาดพร้าว อีก 1 คน ในเรื่องให้ความช่วยเหลือคนจีนเรื่องการประกันตัว ก็คือเป็นคนจีนที่ยานนาวาหนึ่งในสองร้อยกว่าคนที่วันนั้นถูกจับเรื่องยาเสพติด ทันทีที่ทราบเรื่องให้การช่วยเหลือคนจีน 1 คนนี้ ก็ได้นำเรียน ผบ.ตร. ท่านก็ได้สั่งการว่าให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา
เมื่อเราตรวจสอบเส้นทางการเงิน มีการรับผลประโยชน์ก็ต้องดำเนินคดี วันนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหาไปหมดแล้วทั้ง 3 คน
ขณะที่ในส่วนของ ตม. เมื่อมีการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ซึ่งเรามีข้อมูลอยู่แล้ว การดำเนินคดีอาญาก็ไม่ใช่เรื่องยาก วันนี้ได้เรียกทั้ง ผู้กำกับ ตม.เชียงใหม่, สารวัตรใหญ่ ตม.แพร่, สารวัตรใหญ่ ตม.อุดรธานี ก็เรียกมาพบหมดแล้ว จะได้ไล่เรียงรายละเอียดทั้งหมด วันนี้หน้าที่ของ ตม. ต้องเอาคนดีเข้าประเทศ ไม่ใช่เอาคนร้ายเข้าประเทศ ถ้านำคนร้ายเข้ามาก็ต้องใช้มาตรการดำเนินการกัน
ผู้ดำเนินรายการถามว่า เมื่อขุดคุ้ยสืบเสาะขบวนการคนจีนที่เป็นกลุ่มทุนที่เชื่อมโยงกันมากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งที่ได้พบ คาดว่าจะมีตำรวจที่โดนเด้งโดนสอบอีกหรือไม่
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ส่วนตัวในฐานะผู้บังคับบัญชา ก็ต้องทำให้สังคมเห็นถึงความโปร่งใสในการทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลำดับต่อมาในส่วนตำรวจซึ่งเป็นลูกน้องก็ต้องให้ความเป็นธรรม แต่อย่างไรก็ตามถ้ามีการกระทำผิดอาญาจริง เรียกรับผลประโยชน์จริง ไม่ว่าจะเป็นใคร วันนี้ ท่าน ผบ.ตร. เน้นย้ำว่าต้องไม่ละเว้น เพราะฉะนั้นเรื่องมี 2 ส่วนคือ คนจีนที่กระทำความผิด คนไทยที่ช่วยเหลือคนจีนที่กระทำความผิด และเจ้าหน้าที่รัฐที่ช่วยเหลือคนจีนที่กระทำความผิด คาดว่าจะยังมีอีก รวมถึงมีเจ้าหน้าที่ส่วนอื่นเกี่ยวข้องด้วย
ยกตัวอย่างกระบวนการบ่อนศูนย์เหรียญเหล่านี้ วิธีการของเขาก็คือใช้คนไทยมาเป็นนอมินี ฉะนั้นคนไทยที่เป็นนอมินีวันนี้เราพบแล้ว คนไทยเหล่านี้เสียภาษีต่อปีแค่ไม่กี่พันบาท แต่มาเป็นเจ้าของกิจการที่เป็นร้อยล้าน ฉะนั้นคนไทยเหล่านี้เป็นนอมินี แล้ววันนี้ที่เราออกหมายจับไปแล้ว 1 ราย ก็คือเจ้าของคลับวันที่พัทยา
นอกจากเป็นนอมินีแล้วยังเป็นคนไทยที่สวมบัตรประชาชนคนไทยอีกด้วย ก็คือไม่ใช่คนไทยจริง แต่ไปซื้อบัตรประชาชนคนไทย ทีนี้ก็ต้องถามต่อว่าบัตรประชาชนคนไทยออกโดยใคร ออกโดยฝ่ายปกครอง ก็ต้องไล่ไปต่ออีกว่า นายอำเภอคนไหนออก ปลัดอำเภอคนไหนออก เพราะฉะนั้นต้องเรียนว่ารูปแบบจะเหมือนทัวร์ศูนย์เหรียญเมื่อ 5 ปีที่แล้วเลย ตอนที่ปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญก็เหมือนแบบนี้ มีกลุ่มทุนจีนมาใช้คนไทยเป็นนอมินี โดยคนไทยนั้นสวมบัตร เป็นรูปแบบเดียวกัน
ผู้ดำเนินรายการถามว่า เขาคัดหาคนลักษณะอย่างไรมาเป็นนอมินี
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ข้อแรก คนสวมบัตรประชาชนคนไทยต้องพูดภาษาจีนได้ สื่อสารภาษาจีนได้ สังเกตได้เลย สมัยก่อนทัวร์ศูนย์เหรียญก็เป็นแบบนี้ หรือกรณีเมื่อ 5 ปีที่แล้วมีเรือจมที่จังหวัดภูเก็ต เจ้าของเรือก็เป็นคนไทย แต่เป็นนอมินีเช่นกัน คนไทยคนนั้นพูดภาษาจีนได้ ฉะนั้นมีวิธีการเลือกแบบนี้
แต่ต้องเรียนว่าขบวนการดังกล่าวก็ไม่ใช่ขบวนการที่ใหญ่โต เมื่อไล่เรียงแล้ววันนี้จะมีอยู่ประมาณ 3 กลุ่ม ซึ่งเราจับได้บางส่วนแล้วทั้ง 3 กลุ่ม ที่เหลืออยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติออกหมายจับทั้งหมด
ผู้ดำเนินรายการถามว่า กรณีชายชาวจีนที่ชื่อ หาวเจ๋อตู้ ที่ก่อนหน้านี้มีสื่อเผยว่าเกี่ยวข้องกับผับยานนาวา แต่ตัวเขาแถลงโต้ว่าทำธุรกิจสุจริตเกี่ยวกับท่องเที่ยว แล้วเขาจะฟ้อง 3 สื่อที่โยงเขาด้วย ตอนนี้เรื่องนี้เป็นอย่างไร
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ข้อมูลที่ยานนาวา ตอนนี้เราเตรียมขออนุมัติหมายจับ โดยจะมีรายชื่อหลายส่วนด้วยกัน คาดว่าภายในวันจันทร์น่าจะขออนุมัติหมายจับได้หมด ยังไม่อยากพูดตอนนี้เพราะจะทำให้การทำงานยากขึ้น
เพราะวันนี้คนจีนหลายคน ทันทีที่ทราบเหตุก็รีบหนีออกไปหมด ยกตัวอย่าง เจ้าของคลับวันที่พัทยา คนที่เป็นเจ้าของตัวจริงเป็นคนจีน ไม่ใช่กู๋เอี่ยวซึ่งเป็นนอมินี พอคนจีนเจ้าของตัวจริงรู้ว่าเราออกหมายจับ รู้ว่าเราจะจับก็รีบหนีออกไปทางมุกดาหาร เพื่อจะออกไปทาง สปป.ลาว เมื่อเราสืบทราบจึงได้ประสาน ตม. ยกเลิกพาสปอร์ต แล้วล็อกตัวได้ ตอนนี้ตัวอยู่ ตม. ที่มุกดาหาร จับได้แล้ว คนนี้เป็นเจ้าของคลับวัน จะเห็นได้ว่ารูปแบบคือ มีเจ้าของตัวจริง มีนอมินี นี่คือกรณีพัทยา
ส่วนกรณีกรุงเทพมหานครที่ยานนาวาและที่สุทธิสาร อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานข้อมูลทั้งหมด แต่ว่ารายชื่อทั้งหมดเรามีอยู่แล้ว ขึ้น Watchlist ทั้งหมด ฉะนั้นเขาไม่สามารถออกช่องทางปกติได้แล้ว เว้นแต่หนีออกทางช่องทางธรรมชาติ
ผู้ดำเนินรายการถามว่า กรณีที่พัทยาซึ่งฮือฮาเพราะมีคลิปที่คนในผับบอกว่า จ่ายให้คนโน้นคนนี้แล้ว แล้ววันต่อมาออกมายกมือไหว้ขอโทษบอกว่าพูดเพราะเมา เมื่อสืบทราบล่าสุดแล้วว่ามีตัวจริง มีนอมินี จะต้องสอบเรื่องนี้ใหม่หรือไม่
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ต้องสอบทุกประเด็น ประเด็นเหล่านี้เป็นประเด็นที่ประชาชนสงสัย การที่บอกว่าคุณจ่าย หมายถึงจ่ายใคร
“วันนี้ท่าน ผบ.ตร. บอกให้ผมทำอย่างตรงไปตรงมา ผมก็ต้องสอบสวนอย่างตรงไปตรงมา ถ้ากู๋เอี่ยวระบุถึงใคร คนนั้นก็ต้องรับผิดชอบตัวเองไป ต้องดำเนินคดีกันต่อไป
“เพราะฉะนั้นตัวกู๋เอี่ยว เดิมออกหมายจับก็หลบหนี แต่ตอนนี้ดักจับกุมได้ที่ศาล เนื่องจากสืบสวนได้ว่าจะต้องไปขึ้นศาลในวันนี้จึงไปดักที่ศาล ใช้วิธีการอย่างนี้”
ผู้ดำเนินรายการถามถึงกรณี ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ระบุว่า เป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าตำรวจจะจัดการได้ มีการโยงไปถึงมาเฟียจีน แล้วมีการโยงไปถึงทุนการเมือง เช่น นายทุนจีนคนหนึ่งมีข่าวว่าเกี่ยวข้องบริจาคเงินให้กับพรรคการเมืองหนึ่ง ทาง รอง ผบ.ตร. มั่นใจหรือไม่ว่าเรื่องนี้ไม่ยากเกินฝีมือ
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เรื่องนี้อย่างที่เรียนว่าความจริงแล้วไม่มีอะไรที่ยากเย็นซับซ้อน วันนี้ใน 35 จุดที่ตรวจค้นก็มี 1 จุดเป็นตึกอาคารของอดีตรัฐมนตรีท่านหนึ่ง วันนี้ได้เรียนท่านว่าใครที่เกี่ยวข้องตามข้อมูลเส้นทางเชื่อมโยง เราต้องทำการขออนุญาตตรวจค้นทั้งหมด ซึ่งท่านอดีตรัฐมนตรีก็ยินยอมให้เราตรวจค้น โดยเราใช้หมายศาลในการตรวจค้น
ส่วนเรื่องการบริจาคเงินเข้าพรรคการเมืองก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งหากมีการทำผิดกฎหมายก็เป็นหน้าที่ที่ผมต้องจัดการ ต้องดำเนินการอย่างจริงจังและโปร่งใส เพราะถ้าทำไม่ตรงประชาชนก็จะมองเห็น ฉะนั้นจึงพยายามทำให้เร็วที่สุด ไม่ว่าหากไปกระทบส่วนไหน เราก็พร้อมจะชี้แจงได้หมด
ผู้ดำเนินรายการถามว่า จริงหรือไม่ที่กลุ่มมาเฟียหรืออาชญากรในจีนมากขึ้นถึงขนาดมาลงหลักปักฐานในไทย บางพื้นที่เป็นพื้นที่พิเศษของคนจีนไปแล้ว เจอแต่คนจีนไม่มีคนไทย ถึงขนาดนั้นหรือไม่
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ยังไม่มีขนาดนั้น ส่วนประเด็นว่าทำไมจีนมาไทยเยอะ เพราะเดิมจีนไปตั้งรกรากในประเทศเพื่อนบ้าน ไปทำคอลเซ็นเตอร์ แต่วันนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวจึงแห่มาทางฝั่งไทย จากเดิมไทยไม่มีปัญหานี้จึงเพิ่งมามีช่วงหลังๆ สิ่งสำคัญคือเราต้องกวาดล้างอย่างจริงจังเช่นที่ทำอยู่ทุกวันนี้
“ท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่านรองนายกฯ โดยเฉพาะ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ท่านก็ไฟเขียวชัดเจนให้ปราบปรามอย่างเต็มที่ ทั้งสองท่านสั่งท่าน ผบ.ตร. มา ผมเป็นมือไม้ของท่าน ผบ.ตร. เรื่องการสืบสวน”
ฉะนั้นไม่หนักใจเรื่องการทำงาน เรื่องขบวนการจีนในเมืองไทย เมื่อกวาดล้างปราบปรามอย่างจริงจัง ขบวนการเหล่านี้ก็รู้แล้วว่าอยู่ประเทศไทยไม่ไหว ก็จะไปทำที่ประเทศอื่นต่อ หากประเทศไหนอ่อนแอเขาก็ไปประเทศนั้น วันนี้เราจะไม่ให้เขาใช้ประเทศไทยเราเป็นแหล่งพักพิงแล้วก่ออาชญากรรม เช่น กรณีตัดนิ้วกัน ก็คือกลุ่มคนจีนที่ไปทำคอลเซ็นเตอร์กันมาจากประเทศเพื่อนบ้าน แล้วเข้ามาเที่ยวเมืองไทย แล้วมาทวงเงินกันในเมืองไทย ทวงเงินหนี้เรื่องคอลเซ็นเตอร์ เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นกลุ่มเดียวกันแต่มาฆ่าฟันกันในเมืองไทย ซึ่งต้องจับกุมทั้งหมด
ผู้ดำเนินรายการถามถึงความคืบหน้าการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สิ่งที่น่ายินดีคือประเทศไทยเราไม่มีฐานคอลเซ็นเตอร์อยู่ เราเข้มงวดเข้มแข็งเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย ส่วนคอลเซ็นเตอร์ไปตั้งฐานในประเทศเพื่อนบ้าน ยกตัวอย่างเช่นที่กัมพูชา
“การจะเข้าไปปราบปรามในกัมพูชาก็ไม่เหมือนในอดีต ผมไปอยู่ในกัมพูชามา 8-9 วัน สมัยท่าน ผบ.ตร. พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ฉะนั้นเรื่องคอลเซ็นเตอร์ในต่างแดนเป็นเรื่องพ่วงด้วยเรื่องเศรษฐกิจของเขาด้วย ยกตัวอย่างเช่น โรงแรมในประเทศหนึ่ง พอโควิดมานักท่องเที่ยวหายหมด สมมติมีโรงแรมในเมืองท่องเที่ยวอยู่ 20 โรงแรม โควิดมาไม่มีนักท่องเที่ยว แต่อยู่ดีๆ คอลเซ็นเตอร์ไปติดต่อประเทศนั้น บอกว่าคนจีนขอเช่าทั้ง 20 โรงแรม เหมาเลย แล้วให้ค่าใช้จ่ายสูง แต่เมื่อเช่าแล้วจะขอล้อมรั้วรอบอีกชั้นหนึ่ง แล้วทำบังเกอร์เหมือนเรือนจำ เอาป้ายโรงแรมออกเพื่อทำเป็นตึกคอลเซ็นเตอร์ แล้วเอาคนไทยไปขังไว้
“ฉะนั้นจะเห็นภาพว่าบางประเทศอาจจะยอม เพราะเศรษฐกิจเขาไปได้ เจ้าของโรงแรมก็มีรายได้เข้า แต่อย่าลืมว่าเขาอาจจะมองว่าการหลอกลวง ความเสียหายไม่ได้เกิดกับคนในประเทศเขา ความเสียหายเกิดกับคนไทย ขณะที่คนของประเทศเขาไม่ได้รับผลกระทบ
“ฉะนั้นวันนี้ทำให้การปราบปรามลำบาก แต่สิ่งที่ทำก็คือพยายามอาศัยความร่วมมือผ่านแดน ท่าน ผบ.ตร. ก็เช่นกัน แต่วันนี้ต้องยอมรับตรงๆ ว่ายังมีคนไทยที่เขาสมัครใจที่จะทำคอลเซ็นเตอร์ เพื่อจะหลอกลวงคนไทยด้วยกันเอง ยังมีอยู่อีกมาก เพราะเขาอาจจะมองว่ามีรายได้ดีกว่าอยู่ประเทศไทย อย่างไรก็ตาม การปราบปรามโดยท่าน ผบ.ตร. และผมเอง ยังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แต่อาจจะติดขัดปัญหาเรื่องระหว่างประเทศ ลักษณะอย่างที่เรียนไปแล้ว”
ผู้ดำเนินรายการถามว่า ผบ.ตร. และ รอง ผบ.ตร. ชุดใหม่ที่เพิ่งมารับตำแหน่งได้ไม่นาน ดูเหมือนเจอศึกหนัก ทั้งยาเสพติด อาวุธปืน ล่าสุดกลุ่มจีนในไทย เรื่องเหล่านี้หนักเกินไปหรือไม่ เดือนแรกก็เจอขนาดนี้แล้ว
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าช่วงนี้เหตุเกิดเยอะ ตั้งแต่กรณีหนองบัวลำภูมาแล้ว ฉะนั้นทุกคนต้องช่วยกัน ผู้การ ผู้บัญชาการ ผู้กำกับ และผมเอง รวมถึงรอง ผบ. ตร. ทุกท่านที่ได้รับมอบหมายหน้าที่ อย่างไรวันนี้ก็ต้องช่วยกัน
“ผมมองว่าเมื่อเราขับเคลื่อนอย่างจริงจัง เมื่อเรากดดันบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังแบบนี้เดี๋ยวสถานการณ์จะดีขึ้น การอุดช่องโหว่ รอยรั่วจะหมดไป เช่นเดียวกับเรื่องปืนที่สถานีตำรวจภูธร (สภ.) ปากเกร็ดถูกขโมย ที่ผ่านมาให้เอาปืนมาคืนก่อน คืนมาจำนวนหนึ่ง หากให้เอามาคืนดีๆ แล้วไม่ยอมคืนจะออกหมายจับทั้งหมด แล้วเข้าค้นทั้งหมด ต้องใช้มาตรการแบบนี้ ต้องพยายามทำ” พล.ต.อ. สุรเชษฐ์กล่าว