วันนี้ (9 กุมภาพันธ์ ) นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศตุรกีและซีเรีย ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ว่าได้รับข้อสั่งการจาก อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เรื่องนายกรัฐมนตรี มีดำริผ่านกระทรวงการต่างประเทศ ในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการแพทย์ต่อเหตุการณ์ดังกล่าว
ทางกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยกองสาธารณสุขฉุกเฉิน สำนักงานปลัด สธ. กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค และกรมการแพทย์ จึงประชุมหารือร่วมกับกรมยุโรป กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถึงสถานการณ์และความช่วยเหลือ พบว่า ประเทศตุรกีมีพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง มีการประกาศเขตภัยพิบัติ 10 จังหวัด
ส่วนประเทศซีเรียได้รับผลกระทบวงกว้างเช่นกัน ภาพรวมประชากรได้รับบาดเจ็บมากกว่า 20,000 ราย และอยู่ระหว่างค้นหาผู้ติดอยู่ในซากตึก โดยอุณหภูมิในพื้นที่ประมาณ -10 องศาเซลเซียส
สำหรับการพิจารณาสนับสนุนความช่วยเหลือเบื้องต้น จะแบ่งเป็น 4 ส่วน ได้แก่
- การส่งทีม Urban Search and Rescue (USAR) หรือทีมค้นหากู้ภัย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยรับดำเนินการ ซึ่งจะมีบุคลากรแพทย์ พยาบาลกู้ชีพ และเวชกิจฉุกเฉินของกรมการแพทย์ จำนวน 3 คนเข้าร่วมทีม ออกเดินทางในช่วงค่ำวันนี้
- การสนับสนุนครุภัณฑ์และเวชภัณฑ์ ซึ่งสถานทูตตุรกีได้ส่งรายการเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ต้องการมา 215 รายการ สธ. ได้พิจารณาสนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นและเหมาะสมต่อสถานการณ์แผ่นดินไหวในวงเงิน 5-6 ล้านบาท อยู่ระหว่างดำเนินการ คาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์ ส่วนประเทศซีเรียไม่มีสถานทูตไทย การดำเนินการขอให้พิจารณาผ่านสถานทูตไทย ณ กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน
- การสนับสนุนทีมแพทย์เบื้องต้น โดยทีมแพทย์ทหารจัดส่งทีม MERT (Medical Emergency Response Team) ประมาณ 25 นายไปปฏิบัติการ
- สธ. จะเตรียมความพร้อมทีม Thailand EMT (Emergency Medical Team) ซึ่งเป็นทีมปฏิบัติการทางการแพทย์ด้านภัยพิบัติที่ผ่านการอบรมและขึ้นทะเบียนกับองค์การอนามัยโลก อยู่ระหว่างการระดมทีม สรุปแผนและแนวทางการปฏิบัติ มีจำนวน 32 คน เป็นสหวิชาชีพ ทั้งแพทย์ พยาบาลกู้ชีพ นักวิชาการสาธารณสุข เวชกิจฉุกเฉิน เทคนิคการแพทย์ วิศวกร บุคลากรอื่นๆ
โดยจะมีการประชุมพรุ่งนี้ (10 กุมภาพันธ์) และจะประสานกับกระทรวงกลาโหม ว่าทีมแพทย์ทหารที่เดินทางไปแล้วต้องการทีมสนับสนุนเพิ่มเติมหรือผลัดเปลี่ยนหรือไม่ โดยกรมการแพทย์เป็นผู้ประสานหลัก
“การไปปฏิบัติการช่วยเหลือในครั้งนี้มีข้อจำกัดหลายประการ ทั้งเรื่องอุณหภูมิที่ต่ำถึง -10 องศาเซลเซียส ภาษา ศาสนา และวัฒนธรรม รวมถึงการเกิดอาฟเตอร์ช็อกจึงเน้นย้ำให้บุคลากรที่จะเดินทางไปให้ความช่วยเหลือระมัดระวังอย่างเต็มที่ ดูแลความปลอดภัยทั้งของตนเองและผู้ประสบภัย” นพ.โอภาสกล่าว