จากกรณีที่เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา (18 มกราคม) เกิดเหตุคนร้ายกว่า 10 คนบุกเข้าไปใช้อาวุธปืนยิงพระสงฆ์ที่วัดรัตนานุภาพ บ้านโคกโก หมู่ที่ 2 ตำบลโต๊ะเด็ง อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส เป็นเหตุให้พระสงฆ์มรณภาพ 4 รูป
ล่าสุด พล.ต.ท. รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ได้ประสานไปยังทุกสถานีตำรวจภูธรในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอสงขลา ให้ประสานทางวัดในพื้นที่รับผิดชอบที่เป็นพื้นที่เสี่ยง และไม่มีกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแล ให้งดออกรับบิณฑบาตไปก่อน พร้อมให้เจ้าหน้าที่ออกประชาสัมพันธ์กับประชาชน ให้นำอาหารไปถวายพระภิกษุสงฆ์ในวัดนั้นๆ ส่วนการรักษาความปลอดภัยพระภิกษุสงฆ์ให้เพิ่มความเข้มงวดในการดูแล และเพิ่มความถี่ในการออกลาดตระเวนเส้นทาง รวมทั้งการดูแลภายในและภายนอกวัดด้วย
ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้กำลังใจพี่น้องประชาชน ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองทุกคน ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะที่จังหวัดนราธิวาส
“นายกฯ ประณามการกระทำที่อุกอาจเช่นนี้ พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนหาข้อเท็จจริงและไล่ล่าคนร้ายมาลงโทษให้ได้ โดยย้ำว่ารัฐบาลจะปกป้องประเทศชาติและประชาชนด้วยการรักษาความสงบเรียบร้อยให้ดีที่สุด จึงขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในรัฐบาล และร่วมมือกันสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นทุกตารางนิ้วบนผืนแผ่นดินขวานทองของเรา”
ขณะที่ Human Rights Watch ออกแถลงการณ์ประณามการก่อเหตุยิงพระสงฆ์ โดยระบุว่าการโจมตีพลเรือนและสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาโดยเจตนาถือเป็นอาชญากรรมสงคราม พร้อมระบุว่าตั้งแต่เดือนมกราคม 2547 เป็นต้นมา กลุ่มก่อการร้าย Barisan Revolusi Nasional หรือ BRN ได้กำหนดเป้าหมายการก่อเหตุไปที่วัดและพระสงฆ์ โดยมีพระสงฆ์อย่างน้อย 23 รูปถูกสังหาร และบาดเจ็บมากกว่า 20 รูป นอกจากนี้เป้าหมายของกลุ่มก่อการร้ายยังรวมถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เฝ้าดูแลพระสงฆ์ด้วย
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: