วันนี้ (10 ตุลาคม) เวลา 14.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นประเทศบรูไน ซึ่งเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง) ณ พระราชวังอิสตานา นูรุล อิมาน เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ ก่อนจะเข้าเฝ้าฯ และหารือทวิภาคีกับสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งบรูไนดารุสซาลาม
โดย ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญระบุว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไทยและบรูไนมีมิตรภาพที่ยาวนานกว่า 39 ปี บรูไนเป็นพันธมิตรของไทยทั้งในความร่วมมือทวิภาคี ในเวทีระดับภูมิภาค และพหุภาคี ทั้งนี้ หากพระองค์มีพระราชประสงค์เสด็จฯ เยือนประเทศไทย จะถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งต่อรัฐบาลไทยที่ได้มีโอกาสถวายการต้อนรับ
ด้านสมเด็จพระราชาธิบดีฯ ทรงกล่าวต้อนรับนายกรัฐมนตรีและคณะ พร้อมแสดงความยินดีต่อการเข้ารับตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี การเยือนอย่างเป็นทางการในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันของไทยและบรูไน โดยเฉพาะที่ในปีหน้าจะครบรอบ 40 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์การทูต
ชัยกล่าวว่า ในด้านเศรษฐกิจ ผู้นำทั้งสองหวังที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือในด้านนี้มากขึ้น โดยนายกรัฐมนตรียินดีที่ทราบว่าในปี 2545 Brunei Investment Agency (BIA) ได้ร่วมมือกับ EXIM Thailand และกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) จัดตั้งกองทุนทวีทุน (Thailand Prosperity Fund) ซึ่งมีทุนเริ่มแรก 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมเชิญชวนให้ BIA พิจารณาลงทุนเพิ่มเติมในไทย โดยเฉพาะในสาขาที่มีศักยภาพสูง เช่น การบริการ การท่องเที่ยว โครงสร้างพื้นฐาน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียินดีที่สินค้าไทยได้รับความนิยมมากขึ้นในบรูไน โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ มีแผนที่จะจัดแสดงสินค้าไทยในบรูไนมากขึ้น จึงหวังที่จะทำงานร่วมกับบรูไนเพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งออกสินค้าไทยและอาหารไปยังบรูไนมากขึ้น
ชัยกล่าวอีกว่า ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องว่า อาเซียนที่เข้มแข็งและเจริญรุ่งเรืองเป็นสิ่งสำคัญ โดยอาเซียนเป็นเสาหลักสำคัญของนโยบายต่างประเทศของรัฐบาล และพร้อมจะสานต่อการทำงานร่วมกับบรูไนเพื่อเสริมสร้างอาเซียน พร้อมหวังจะได้เห็นการบูรณาการทางเศรษฐกิจในอาเซียนที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันทั้งสองฝ่ายยังแสดงความห่วงกังวลต่อเหตุการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางที่เกิดขึ้นขณะนี้ พร้อมขอให้สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็ว