สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ปี 2566 ขยายตัวเพียง 1.5% (YoY) เนื่องมาจากการส่งออกรวมชะลอลง และการใช้จ่ายรัฐบาลยังคงลดลง แม้ว่าการบริการขยายตัวจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น การอุปโภคบริโภคของครัวเรือนที่ขยายตัวต่อเนื่อง และการลงทุนของภาคเอกชนที่เร่งตัวขึ้น
โดยจากการรวบรวมข้อมูลแสดงให้เห็นว่า GDP ไทยไตรมาส 3 มีอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับหลายประเทศในภูมิภาคและกลุ่ม (Tier) เดียวกัน โดยเป็นรองทั้งฟิลิปปินส์, เวียดนาม, จีน, อินโดนีเซีย, ฮ่องกง และมาเลเซีย
สำหรับฟิลิปปินส์ที่มีอัตราการเติบโต GDP ถึง 5.9% ในไตรมาสที่ 3 เป็นผลมาจากการใช้จ่ายของภาครัฐที่ฟื้นตัว ช่วยชดเชยการบริโภคในประเทศที่ชะลอตัวลงได้ ขณะที่เวียดนามมีการขยายตัวของ GDP ถึง 5.3% เป็นผลมาจากการใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย ช่วยชดเชยอุปสงค์สินค้าส่งออกที่ชะลอตัว
ภาพประกอบ: กันยกร กาญจนวิไล