วันนี้ (24 ธันวาคม) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์โควิดสายพันธุ์โอไมครอนในไทย ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อโอไมครอนแล้ว 205 ราย จำแนกเป็นผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากต่างประเทศจำนวน 180 ราย และผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 25 ราย โดยเน้นย้ำว่าทุกรายมีการติดเชื้อที่เชื่อมโยงจากกลุ่มคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศ
โดยในกลุ่มผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 25 ราย พบคลัสเตอร์ใหญ่ที่สุดคือกรณีของสามี-ภรรยา ที่เข้ามาอยู่ในจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งขณะนี้ที่ตรวจในกลุ่มเสี่ยงจากเคสนี้พบผู้ติดเชื้ออีก 20 ราย ในจำนวนนี้มี 5 รายที่มีตัวอย่างไม่สมบูรณ์ ทางกรมวิทย์ฯ ได้ประสานงานให้มีการเก็บมาตรวจใหม่เพิ่มเติม นอกจากนี้ยังมีเคสพบเชื้อในประเทศ เช่น ผู้ป่วย 3 รายติดจากคณะแสวงบุญพบอยู่ทางภาคใต้ แม่บ้านโรงแรมแห่งหนึ่ง และอีกรายคือภรรยาของนักบินซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศรายแรก ส่วนเคสอื่นๆ ทางสาธารณสุขยังคงต้องใช้เวลาในการสืบสวนโรคต่อไป
ทั้งนี้ สัดส่วนภาพรวมการระบาดของทุกสายพันธุ์ ข้อมูลระหว่างวันที่ 20-23 ธันวาคม 2564 พบอัตตราการตรวจเจอโอไมครอนจำนวน 16.2% โดยเดลตายังคงเป็นสายพันธุ์หลักที่มีการระบาดในไทย หลังพบผู้ติดเชื้อจำนวน 83.8%
นอกจากนี้ นพ.ศุภกิจให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโอไมครอน พบความเสี่ยงในการเข้ารับการรักษาตัวของผู้ป่วยติดสายพันธุ์โอไมครอน มีความรุนแรงที่ทำให้ผู้ติดเชื้อต้องนอนโรงพยาบาลเกิน 1 วันขึ้นไป ด้วยเปอร์เซ็นต์ 40-45% ซึ่งน้อยกว่าเมื่อเทียบกับสายพันธุ์เดลตาที่ 61% ขณะที่ผลการศึกษาในแอฟริกาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 30 พฤศจิกาย 2564 พบผู้ที่ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอน มีอัตราการเข้ารับการรักษาลดลงเมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนที่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน คาดว่าจะมีอาการรุนแรงที่ลดลง เมื่อเทียบกับกลุ่มคนที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีน
