สืบเนื่องจากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่หลายจังหวัดของภาคเหนือตอนบน และที่อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่ช่วงวันที่ 19 สิงหาคม 2567 เป็นต้นมา ทำให้หลายพื้นที่เกิด เหตุภัยพิบัติ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ส่งผลกระทบต่อทรัพย์สิน อาคารบ้านเรือน รวมถึงพื้นที่ทางการเกษตรเกิดความเสียหายเป็นจำนวนมาก
THE STANDARD รวบรวมช่องทางการติดต่อขอรับความช่วยเหลือสำหรับหน่วยงานและประชาชนที่ประสบภัยใน 3 หน่วยงานหลัก คือ สภากาชาดไทย, กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และมูลนิธิกระจกเงา โดยมีรายละเอียดดังนี้
สภากาชาดไทย
สำหรับหน่วยงานราชการ ภาคีเครือข่าย และผู้ได้รับผลกระทบ สามารถขอรับความช่วยเหลือจากสภากาชาดไทยด้วยตนเองได้ ผ่านการลงทะเบียนขอรับความช่วยเหลือทางแอปพลิเคชัน ‘พ้นภัย’ ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันเพื่อการแจ้งภัยและร้องขอความช่วยเหลือโดยตรง
รวมถึงเป็นเครื่องมือสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการจัดการให้ความช่วยเหลือภายหลังจากเหตุภัยพิบัติ เพื่อลดขั้นตอนการประสานงาน และสนับสนุนการจัดสรรทรัพยากรได้อย่างสะดวกรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยสามารถดาวน์โหลดฟรีได้ทาง Google Play และ App Store
มูลนิธิกระจกเงา
ตั้งแต่เกิดภัยพิบัติ เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามบ้านพัก ซึ่งส่วนมากเป็นผู้สูงอายุและผู้ป่วยมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหลังสถานการณ์น้ำท่วมขังลดลง มูลนิธิได้วางแนวทางช่วยฟื้นฟูที่พักอาศัย จึงจำเป็นต้องขอรับบริจาคอุปกรณ์ทำความสะอาดและของตั้งต้นจำนวนมาก เช่น ผ้าอ้อมสำหรับผู้ป่วย, เครื่องใช้ไฟฟ้า, หม้อหุงข้าว, กาน้ำร้อน, เครื่องครัว, เครื่องนอน, ผ้าห่ม ฯลฯ
ผู้ที่ประสงค์บริจาค สามารถสนับสนุนสิ่งของเหล่านี้ได้ที่มูลนิธิกระจกเงา เลขที่ 191 ซอยวิภาวดีรังสิต 62 แยก 4-7 แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. 10210 โทร. 06 1909 1840, 06 3931 6340 หรือสนับสนุนงานภัยพิบัติของมูลนิธิกระจกเงาได้ที่กองทุนภัยพิบัติ (Special Force) โดยมูลนิธิกระจกเงา
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทาง LINE ปภ. รับแจ้งเหตุ 1784 โดยเพิ่มเพื่อนผ่าน LINE ID: @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอปพลิเคชัน ‘THAI DISASTER ALERT’
อีกช่องทางที่กรมการปกครองแนะนำคือให้ผู้ที่ประสบเหตุแจ้งข้อมูลไปยังเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 โดยโทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง
