วันนี้ (15 ตุลาคม) เวลา 19.07 น. ที่อาคารรัฐสภา อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางกลับเข้าอาคารรัฐสภาอีกครั้ง เพื่อลงมติโหวตร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ ซึ่งอยู่ระหว่างการลงมติว่าจะใช้ร่างจากพรรคใดเป็นร่างหลัก ด้วยวิธีการขานชื่อ เนื่องจากครั้งแรกผลการลงมติออกมาห่างกันไม่ถึง 30 เสียง
เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า รีบกลับเข้ามาเพราะกลัวร่างของพรรคภูมิใจไทยจะไม่เป็นร่างหลักหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “ไม่เกี่ยวครับ เป็นหน้าที่สส. ถามอย่างนี้อีกแล้ว ไม่มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นร่างของพรรคใด ก็มีประโยชน์กับประชาชนทั้งนั้น”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่าผลการลงมติครั้งแรกสูสี กลัวว่าการลงมติครั้งนี้ร่างของพรรคภูมิใจไทยจะไม่ได้เป็นร่างหลักหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “ไม่กลัว ร่างอะไรก็ดีทั้งนั้น”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หลังร่างของพรรคเพื่อไทยถูกตีตก และพรรคเพื่อไทยประกาศสนับสนุนร่างของพรรคประชาชนเป็นร่างหลัก นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าไม่มีปัญหา โดยระบุว่า “ในระบอบประชาธิปไตย ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกติกา เคารพกติกา ไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น ที่กลับเข้ามาก็เพื่อมาโหวตในฐานะ สส. ภารกิจเสร็จก็รีบมา”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มองอย่างไรที่ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยถูกตีตก อนุทินกล่าวว่า ตอนนั้นติดภารกิจ จึงไม่ได้ติดตาม ตอนนี้เพิ่งเสร็จภารกิจก็รีบกลับมาทำหน้าที่ผู้แทน ก่อนจะรีบขอตัวขึ้นไปร่วมลงมติทันที
จากนั้นเวลา 19.22 น. นายกรัฐมนตรีได้เดินลงจากห้องประชุมสภา ภายหลังการลงมติเลือกให้ร่างของพรรคภูมิใจไทยเป็นร่างหลักในพระราชบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญ พร้อมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า “ตนขึ้นไปลงมติทัน ทำหน้าที่ไม่บกพร่อง” ก่อนย้ำว่า “ขึ้นไปทัน สบายๆ”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคภูมิใจไทยมีการมอนิเตอร์การลงมติอย่างไรบ้าง อนุทินกล่าวว่า “ไม่ได้มอนิเตอร์ โหวตกันตามหน้าที่”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากวันนี้ร่างของพรรคภูมิใจไทยแพ้ร่างของพรรคประชาชนจะมีปัญหาหรือไม่ อนุทินกล่าวว่า “ไม่มีปัญหา”
ส่วนความคืบหน้าเรื่องการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์ หลัง รักชนก ศรีนอก สส. กทม. พรรคประชาชน ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ดำเนินการไปตามกฎหมาย ซึ่งตนได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแล้วเพื่อปราบปรามเรื่องนี้ โดยมี พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นผู้ดำเนินการ
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการวิจารณ์ถึงท่าทีของรัฐบาลว่าไม่แข็งขันเหมือนตอนต้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “คุณดูสิ คุณดูเองมั้ง ของจริงกับการวิจารณ์มันไม่เหมือนกัน” ส่วนที่มีการมองว่า ก่อนได้เป็นรัฐบาลก็รับปากไว้อีกแบบหนึ่ง นายกรัฐมนตรีไม่ได้ตอบ ก่อนจะขึ้นรถไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำถึงการโทรศัพท์พูดคุยกับ อี แจ มยอง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีใต้ ว่าจะมีการพูดคุยเรื่องสแกมเมอร์ด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวสั้น ๆ ว่า “ไม่เกี่ยวกัน พูดคุยเรื่องการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (APEC)
