จากกรณีมีรายการวิเคราะห์ข่าวรายการหนึ่งนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการแต่งตั้งนักการทูตจีนมาดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยแจงรายละเอียดประวัติและประสบการณ์ในการทำงานในหลายประเทศที่มีความขัดแย้งกับจีนในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง ซึ่งสะท้อนว่าจีนอาจเริ่มมีปัญหาหรือข้อขัดแย้งในเรื่องความสัมพันธ์กับไทย เนื่องจากไทยกำลังเอนเอียงเข้าหาสหรัฐฯ และประเทศตะวันตกนั้น
ธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ได้ชี้แจงไว้ว่า ไทยกับจีนมีความสัมพันธ์หุ้นส่วนเชิงความร่วมมือทางยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน เป็นความสัมพันธ์ที่ยาวนาน ใกล้ชิด และแน่นแฟ้นในทุกระดับ และทั้งสองฝ่ายมีการเยือนและหารือกันอย่างต่อเนื่องเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน โดยล่าสุดรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เดินทางไปเยือนจีนระหว่างวันที่ 6-8 มิถุนายน 2564 เพื่อเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศในกรอบอาเซียน-จีน และกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ตลอดจนได้หารือทวิภาคีกับมนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนด้วย
ธานีชี้แจงต่อว่า เมื่อกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ฝ่ายจีนได้ยื่นหนังสือขอความเห็นชอบการแต่งตั้งเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยคนใหม่ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาตามขั้นตอนปกติของฝ่ายไทย
ต่อกรณีที่มีการกล่าวว่าจีนแต่งตั้งนักการทูตที่มีความอาวุโสในวงการทูต มีความใกล้ชิดสนิทสนมและเป็นที่ไว้ใจของมนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน และมีประสบการณ์ในการทำงานในประเทศที่มีความขัดแย้งกับจีน อาทิ เคยดำรงตำแหน่งเป็นอัครราชทูตจีนประจำญี่ปุ่น ซึ่งเป็นระดับที่สูงกว่าเอกอัครราชทูตอีก จีนจึงได้แต่งตั้งบุคคลนี้มาเพื่อแก้ไขปัญหาความสัมพันธ์ไทย-จีน นั้น ธานีชี้แจงว่า การที่จีนแต่งตั้งนักการทูตที่มีความอาวุโสและมีความรู้และประสบการณ์สูงมาเป็นเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย สะท้อนถึงความความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับจีน และความสำคัญที่จีนให้กับไทยในฐานะมิตรประเทศที่เป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน และได้อธิบายเพิ่มเติมว่า ตำแหน่งอัครราชทูต (Minister) ในทางการทูต เป็นระดับที่รองจากตำแหน่งเอกอัครราชทูต (Ambassador) ซึ่งเป็นผู้แทนประมุขของรัฐ และเป็นหัวหน้าสำนักงานมีอำนาจหน้าที่สูงสุดในสถานเอกอัครราชทูตของประเทศใดประเทศหนึ่งในต่างประเทศ
ภาพ: Charnsitr via ShutterStock
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง:
- กระทรวงการต่างประเทศ