วันนี้ (20 ตุลาคม) สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย เบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ และ พล.ร.ต.สุรสันต์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม ร่วมกันแถลงยืนยันถึงกรอบการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ไทย-กัมพูชา (JBC) สมัยพิเศษ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-22 ตุลาคมนี้ ที่จังหวัดจันทบุรี
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าการดำเนินการทุกระดับ ทั้ง RBC (คณะกรรมการชายแดนภูมิภาค), GBC (คณะกรรมการชายแดนทั่วไป) และ JBC ไม่ได้ดำเนินการโดยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เกิดจากการวางแผนอย่างมีกลยุทธ์ของรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง และกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชน
พร้อมกันนี้ ได้ปฏิเสธข้อกังวลเรื่องการสุ่มเสี่ยงสละสิทธิ์หรือยกเลิก MOU ในการประชุม JBC โดยชี้ว่า การประชุมนี้มีความสำคัญต่อสถานการณ์ที่บ้านหนองจาน และบ้านหนองหญ้าแก้ว
สิริพงศ์ กล่าวว่า ในเชิงเทคนิค จะมีการพิจารณาใช้เทคโนโลยีไรดาร์ (LiDAR) ในการกำหนดแนวเขตแดนจากสันปันน้ำ เพื่อให้เกิดความละเอียดมากขึ้นเทียบเท่ากับแผนที่อัตราส่วน 1 ต่อ 20,000 ซึ่งละเอียดกว่าในอดีตมาก
“การใช้ภาพถ่ายไรดาร์เป็นการประเมินจากสถานที่จริง แต่สุดท้ายก็ต้องตกลงร่วมกันกับกัมพูชาอีกครั้งในพื้นที่ใดที่ตกลงกันได้แล้วก็สามารถดำเนินการ แต่พื้นที่ใดที่ยังไม่สามารถตกลงกันได้ก็จะมีการพูดคุยกันต่อ” โฆษกรัฐบาลย้ำว่า การดำเนินการนี้ ไม่ใช่การยอมรับแผนที่ฉบับใดฉบับหนึ่ง
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ชี้แจงประเด็นบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้วว่า ต้องแยกเป็นสองส่วน คือ
- ส่วนที่รุกล้ำพื้นที่ไทยอย่างชัดเจน ส่วนนี้ไม่ต้องเจรจา หน้าที่ของรัฐบาลคือต้องผลักดันออก
- ส่วนที่ยังตกลงกันไม่ได้ ส่วนนี้ต้องอยู่ในกลไกของการเจรจาผ่าน JBC
อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เปิดเผยว่า ฝ่ายไทยนำโดย ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธาน JBC ฝ่ายไทย จะร่วมประชุมกับ ฬำ เจีย ประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา โดยมีผู้แทนจากหลายหน่วยงานความมั่นคงเข้าร่วม การประชุมนี้เป็นสมัยวิสามัญ ต่อเนื่องจากการประชุมครั้งก่อน เพื่อให้การทำงานมีความสอดคล้องกับเวที GBC และ RBC
เป้าหมายหลักคือการแก้ไขปัญหาเขตแดนไทย-กัมพูชาผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ โดย JBC จะเน้นหารือกรณีบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว รวมถึงมาตรการรักษาความปลอดภัย เช่น การสร้างรั้ว และการเร่งรัดแก้ไข TOR ปี 2003 ในการนำเทคโนโลยีไรดาร์มาใช้
โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงการประชุม GBC ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ในวันที่ 23 ตุลาคม โดยจะมีมาเลเซียและสหรัฐอเมริกาเป็นผู้สังเกตการณ์ ซึ่งจะมีการกำหนดให้ฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตามแผนที่ที่รัดกุมมากขึ้น ทั้งเรื่องการถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ชายแดน และการกำหนดพื้นที่และห้วงเวลาในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดให้ชัดเจน เพื่อแสดงความจริงใจในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน รวมถึงการแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์
ทั้งนี้ การประชุม JBC มุ่งเน้นการฟื้นฟูสภาพความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ชายแดนให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด โดยรัฐบาลขอให้ประชาชนมั่นใจและแสดงออกทางการเมืองภายใต้กฎหมายด้วยความสงบสันติ
