เมื่อพูดถึง ‘การค้าชายแดน’ เรียกได้ว่า เป็นเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของเศรษฐกิจไทย
โดยเฉพาะชายขอบเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว, เมียนมา, มาเลเซีย และกัมพูชา ไม่เพียงแต่เชื่อมการค้า ยังเป็นสะพานเชื่อมวัฒนธรรมและสังคมระหว่างประชาชนสองฝั่งชายแดนอีกด้วย
ทว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2025 เกิดเหตุการณ์ปะทะระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชาในพื้นที่ ‘บริเวณช่องบก’ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นเขตชายแดนที่ยังมีข้อพิพาทเรื่องเส้นเขตแดน อาจนำมาสู่ข้อกังวลการ ‘ปิดด่านชายแดน’
ถามว่า การค้าชายแดนไทย-กัมพูชา สำคัญแค่ไหน?
ปัจจุบันมีทั้งหมด 7 ด่าน และมี 1 ด่านเป็นจุดผ่อนปรนเพื่อการท่องเที่ยว 1 เขาพระวิหาร จังหวัดศรีสะเกษ
ข้อมูลจากกองความร่วมมือการค้าและการลงทุน กรมการค้าต่างประเทศ ระบุว่า ปี 2024 การค้าระหว่างไทยและกัมพูชา มีมูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 300,000 ล้านบาท
โดยส่วนใหญ่ไทยส่งออกไปกัมพูชาประมาณ 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 90% ส่วนอีก 10% เป็นการนำเข้าจากกัมพูชา และไทยเกินดุลการค้ากัมพูชาประมาณ 8,000 ล้านดอลลาร์
ฉะนั้นการ ‘ปิดด่านชายแดน’ อาจเป็นหนึ่งในมาตรการที่รัฐบาลจะพิจารณา หากสถานการณ์บริเวณชายแดนตึงเครียดมากขึ้น และต้องเฝ้าติดตามเวทีเจรจา JBC (คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา) ในวันที่ 14 มิถุนายนที่จะถึงนี้
แม้ล่าสุด ‘รัฐบาลยืนยัน’ ไม่ปิดด่าน แต่หากอนาคตมีการปิดด่านจริง อาจส่งผลกระทบกับประชาชนและการค้าของ 2 ประเทศ ซึ่งแน่นอนไม่มีฝ่ายใดได้ประโยชน์ และมีกระแสข่าว เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ว่าบางด่านเริ่มปรับลดเวลาเข้าออกระหว่างกัน
อย่างไรก็ตาม ปี 2025 มีการคาดการณ์ว่า การค้าไทย-กัมพูชา จะเติบโต 8-9% ช่วงที่เหลือของปีนี้ก็มีโอกาสที่จะเติบโต 8-10% หากการเจรจาเป็นผลบวก
การค้าชายแดน 4 ประเทศเพื่อนบ้าน เชื่อมโยงกับการค้า ‘ผ่านแดนสู่ประเทศที่ 3’
โดยเดือนเมษายน 2025 มีมูลค่าการค้ารวม 81,062 ล้านบาท (+6.3%) เป็นการส่งออก 49,149 ล้านบาท (+3.8%) การนำเข้า 31,913 ล้านบาท (+10.4%) และไทยได้ดุลการค้ารวมทั้งสิ้น 17,236 ล้านบาท
- มาเลเซีย มีมูลค่าสูงสุด 25,123 ล้านบาท (+8.7%)
- สปป.ลาว 24,402 ล้านบาท
- เมียนมา 16,231 ล้านบาท (+3.0%)
- กัมพูชา 15,307 ล้านบาท (+16.5%)
ขณะที่ด้าน ‘การค้าผ่านแดนไปประเทศที่ 3’ เดือนเมษายน 2025 มีมูลค่าการค้ารวม 84,493 ล้านบาท (+11.1%) เป็นการส่งออก 47,705 ล้านบาท (+5.6%) และการนำเข้า 36,788 ล้านบาท (+19.2%)
- จีน มีมูลค่าสูงที่สุด 52,995 ล้านบาท (+4.5%)
- สิงคโปร์
- เวียดนาม มีมูลค่า 10,919 ล้านบาท (+24.3%)
เอกชนจับตาท่าทีรัฐบาล ‘เชื่อไม่บานปลาย กระทบเศรษฐกิจ’
ภาคเอกชน โดยคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) มองว่า ณ เวลานี้ยังไม่เห็นผลกระทบภาคเศรษฐกิจ ซึ่งเชื่อว่ายังอยู่ในสถานการณ์ที่รัฐบาลควบคุมได้ ทั้งการเจรจาระดับกระทรวงการต่างประเทศ ระดับรัฐบาล รวมถึงระดับทหาร
“กกร. ขอให้รัฐบาลทำงานอย่างเต็มที่ เชื่อมั่นว่ารัฐบาลมีความตระหนักได้ดีว่าจะต้องรักษาสถานการณ์อย่างไรให้ไม่บานปลาย” ผยง ศรีวณิช ประธานกรรมการสมาคมธนาคารไทย กล่าว
ด้าน เกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) มองว่า เรื่องการกระทบกระทั่งในบริเวณชายแดนเกิดขึ้นได้ ไม่ใช่เฉพาะที่กัมพูชาเท่านั้น ซึ่งถือว่ายังเป็นแค่จุดปะทะเล็กๆ
“ส่วนตัวมองว่าเป็นแค่ปัญหาเชิงการเมือง และเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศและรัฐบาลที่ต้องดูแลด้านความมั่นคงของประเทศ และจะต้องไปเจรจากับกัมพูชาอย่างรวดเร็ว จึงยังไม่ส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจ”
อย่างไรก็ตาม THE STANDARD WEALTH สรุปข้อมูลการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นเสมือนเส้นเลือดใหญ่เศรษฐกิจแสนล้าน ปัจจุบันเราค้าขายอะไรกันบ้าง หากปิดด่านในอนาคตกระทบสินค้าของ 2 ประเทศแค่ไหน ใครได้ ใครเสีย?
อ้างอิง: กองความร่วมมือการค้าและการลงทุน กรมการค้าต่างประเทศ
ภาพประกอบ: นิสากร ฤทธาภัย