วันนี้ (28 พฤษภาคม) รายงานข่าวจากหน่วยงานความมั่นคงชายแดน ช่องบก เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 05.45 น. บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี เกิดเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยและทหารกัมพูชา ซึ่งบริเวณพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตที่ยังไม่ได้มีการแบ่งเขตแดนอย่างเป็นทางการระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา และเป็นพื้นที่ที่ทั้งสองฝ่ายมีการอ้างสิทธิทับซ้อนมาโดยตลอด
ที่ผ่านมาทั้งสองประเทศได้มีข้อตกลงร่วมกันในการ ‘รักษาสถานภาพเดิม’ (Status Quo) เพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่อาจกระทบต่อเสถียรภาพในพื้นที่ชายแดน โดยกำหนดให้ไม่มีการดำเนินการที่อาจเปลี่ยนแปลงข้อเท็จจริงในพื้นที่ เช่น การสร้างสิ่งปลูกสร้าง การเคลื่อนย้ายกำลังพล หรือการขุดหลุมโดยมิได้แจ้งล่วงหน้า
อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 05.45 น. ของวันนี้ ฝ่ายไทยตรวจพบการเคลื่อนกำลังและการจัดเตรียมพื้นที่ของฝ่ายกัมพูชาในลักษณะการตั้งจุดตรึงกำลังในพื้นที่ที่ไทยอ้างสิทธิ ซึ่งอาจขัดต่อข้อตกลงที่มีอยู่ ฝ่ายไทยจึงได้จัดกำลังเข้าตรวจสอบ และเกิดเหตุปะทะขึ้น
สำหรับเหตุปะทะเกิดขึ้นจากความคลาดเคลื่อนในการประเมินสถานการณ์ในระดับภาคสนามและยุติลงภายในเวลาอันสั้นโดยไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ และภายหลังเกิดเหตุการณ์ พล.ต. ทล โซะวัน รองผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ของกัมพูชา ได้ประสานทางโทรศัพท์กับรองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารีของไทย และสามารถตกลงยุติเหตุการณ์ได้ภายในเวลา 05.55 น.
ทั้งนี้ กำลังพลของไทยจากหน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี ซึ่งปฏิบัติภารกิจตามปกติในการประสานงานและเฝ้าระวังพื้นที่ โดยไม่มีเจตนาแสดงอำนาจเหนือดินแดนหรือยั่วยุใด ๆ ต่อประเทศเพื่อนบ้าน
สถานการณ์ล่าสุด ทั้งสองฝ่ายอยู่ระหว่างการหารือผ่านกลไกทวิภาคีตามกรอบที่มีอยู่ เพื่อจัดการกรณีพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนด้วยวิถีทางสันติและวางแนวปฏิบัติร่วมกันในอนาคต
ขณะที่กำลังพลของฝ่ายไทยปลอดภัยทุกนายและสถานการณ์อยู่ภายใต้การควบคุมอย่างใกล้ชิด โดยทางกองทัพบกยึดมั่นในแนวทางสันติวิธีและให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ พร้อมประสานความร่วมมือกับราชอาณาจักรกัมพูชาในทุกระดับ เพื่อรักษาเสถียรภาพชายแดนและความสงบสุขของประชาชนทั้งสองประเทศ