×

ย้อนรอย 10 ปี เหรียญซีเกมส์ กับบทพิสูจน์ทีมชาติไทย เจ้าแห่งอาเซียน

โดย THE STANDARD TEAM
22.10.2025
  • LOADING...
ย้อนรอย 10 ปี เหรียญซีเกมส์ กับบทพิสูจน์ ทีมชาติไทย เจ้าแห่งอาเซียน 4

ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา (2015-2023) ชื่อของ ประเทศไทย ยังคงถูกนับเป็นหนึ่งในชาติผู้นำของอาเซียนบนเวทีซีเกมส์

 

แม้จะไม่ได้กวาดเหรียญทองถล่มทลายเหมือนยุคทองในอดีต แต่ผลงานตลอด 10 ปีหลังยังสะท้อนถึงความแข็งแกร่งที่ไม่เคยจางหายไป

 

ไทยคว้าอันดับ 1 บนตารางเหรียญรวมได้ 1 ครั้ง (ปี 2015 ที่สิงคโปร์) ครองอันดับ 2 ถึง 4 ครั้ง และอันดับ 3 อีก 1 ครั้ง

 

แม้จำนวนเหรียญทองเฉลี่ยต่อสมัยลดลงจากหลักร้อย เหลือราว 70-100 เหรียญ แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยคือ ไทยยังไม่เคยหลุดจากกลุ่ม “ท็อป 3” ของภูมิภาคแม้แต่ครั้งเดียว

 

จากเจ้าซีเกมส์…สู่ความท้าทายในยุคใหม่

 

กว่าสองทศวรรษที่ชื่อของ ประเทศไทย ถูกจารึกอยู่บนยอดตารางเหรียญซีเกมส์แทบทุกครั้ง เราคือ ‘เจ้าซีเกมส์’ ตัวจริง ชาติที่เคยกวาดเหรียญได้เป็นร้อยต่อสมัย และมักทิ้งห่างคู่แข่งอย่างขาดลอย

 

แต่ในรอบสิบปีหลังสุด บัลลังก์แห่งอาเซียนเริ่มสั่นไหว เมื่อ เวียดนาม, มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ทยอยไล่จี้ขึ้นมาอย่างน่าจับตา

 

ในปี 2017 ไทยได้อันดับ 2 ของตารางเหรียญรวม โดยแพ้เจ้าภาพมาเลเซียเกือบครึ่ง (145 ต่อ 72 เหรียญทอง) และในปี 2021-2023 เวียดนามก็ก้าวขึ้นมาครองบัลลังก์ 2 สมัยซ้อน

 

นี่ไม่ใช่สัญญาณของความตกต่ำ หากแต่เป็นการเปลี่ยนสมการ ของการแข่งขันในระดับภูมิภาค ที่สะท้อนอย่างตรงไปตรงมาว่า การแข่งขันมีความเข้มข้นมากขึ้น

 

เมื่อชาติอื่นเริ่มมองซีเกมส์ เป็นเวทีพัฒนาระบบฝึกซ้อม และไทยก็เลือกจะยืนอยู่ในเกมนี้อย่างมีเป้าหมายใหม่ ที่มุ่งเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ และสร้างมาตรฐานกีฬาให้ยั่งยืนในระดับอาเซียน

 

ย้อนรอย 10 ปี เหรียญซีเกมส์ กับบทพิสูจน์ ทีมชาติไทย เจ้าแห่งอาเซียน 1

 

กีฬาสากล จุดแข็งที่ไทยต้องรักษา

 

ในบรรดาชาติอาเซียน ไทยยังคงเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งที่สุดใน “กีฬาสากล” ชนิดกีฬาที่ใช้แข่งขันในโอลิมปิกหรือเอเชียนเกมส์ ไม่ว่าจะเป็น มวยสากลสมัครเล่น, เทควันโด, ยกน้ำหนัก, กรีฑา, หรือแบดมินตัน ไทยยังคงเก็บเหรียญได้ต่อเนื่อง

 

ในกีฬาประเภทต่อสู้อย่าง มวยสากลสมัครเล่น และ เทควันโด ไทยยังคงเป็นเหมืองทองคำสำคัญ ไม่เพียงประสบความสำเร็จในระดับอาเซียน แต่ยังสร้างชื่อเสียงไกลถึงเวทีโลกและโอลิมปิกเกมส์ ที่ยังคงเป็นความภาคภูมิของชาติ

 

ด้าน กรีฑาและว่ายน้ำ คืออีกสองสมรภูมิที่สะท้อนคุณภาพการพัฒนาไทยแม้จะไม่ได้กวาดเหรียญเหมือนในอดีต แต่เรายังยืนอยู่ในกลุ่มผู้นำของภูมิภาคโดยเฉพาะ บิว-ภูริพล บุญสอน สปรินเตอร์หนุ่มผู้กลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังใหม่ของวงการวิ่งไทย และอาจรวมถึงเอเชีย

 

ย้อนรอย 10 ปี เหรียญซีเกมส์ กับบทพิสูจน์ ทีมชาติไทย เจ้าแห่งอาเซียน 2

 

โอกาสแห่งกีฬาพื้นบ้าน

 

ในอีกมุมหนึ่ง ไทยเริ่มเสียพื้นที่ใน ’กีฬาพื้นบ้าน’ ที่เคยเป็นจุดแข็งของชาติ ไม่ว่าจะเป็น เซปักตะกร้อ หรือ มวยไทย สองชนิดกีฬาที่ไทยเคยชนะขาดในแทบทุกสมัย แต่ช่วงหลังเริ่มมีแพ้บ้างในบางรายการระดับโลก

 

อย่างไรก็ตาม จุดอ่อนนี้กลับกลายเป็นโอกาส เพราะไทยเริ่มหันมาใช้กีฬาไทยเป็น Soft Power ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันมวยไทยให้เข้าสู่ระบบโอลิมปิก หรือการพัฒนาตะกร้อให้กลายเป็นกีฬาสากล

 

จากกีฬาในภูมิภาค ไทยเริ่มใช้เวทีซีเกมส์เป็นพื้นที่ทดลองแนวทางใหม่ของกีฬาไทย ที่ไม่ได้มีเป้าหมายแค่เหรียญ แต่ต้องการส่งต่อวัฒนธรรม และเอกลักษณ์ของชาติ ให้เพื่อนบ้านและคนทั่วโลกได้รู้จัก

 

ภาพรวมแนวโน้ม 10 ปี จากปริมาณสู่คุณภาพ

 

ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา จำนวนเหรียญที่ไทยคว้ามาได้ในแต่ละสมัยอาจลดลง แต่หากมองลึกกว่าตัวเลข มันไม่ใช่ความถดถอย หากแต่เป็นการเปลี่ยนโฟกัส

 

ไทยเริ่มลดจำนวนชนิดกีฬาที่เข้าร่วมแข่งขันในซีเกมส์ โดยเน้นเฉพาะชนิดที่มีในโอลิมปิก และเอเชียนเกมส์

 

แนวทางนี้ช่วยให้เกิดการลงทุนเชิงลึกในกีฬาเป้าหมายแทนการกระจายทรัพยากร ผลลัพธ์คือ แม้เหรียญทองจะน้อยลง แต่คุณภาพของนักกีฬาไทยเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

 

หลายคนสามารถต่อยอดไปสู่ระดับเอเชียและโลกได้สำเร็จ เช่น บิว-ภูริพล ในกรีฑา, เทนนิส-พาณิภัค ในเทควันโด, หรือทัพแบดมินตันที่นำโดย วิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ต่างก็ทำผลงานกวาดแชมป์ในระดับเวิลด์ทัวร์ปี 2025 ได้เยอะมาก

 

นี่คือทิศทางใหม่ของไทย ไม่ใช่กวาดเหรียญให้ได้มากที่สุด แต่คือการใช้ทุกเหรียญเพื่อสร้างอนาคตของกีฬาไทยแบบที่ควรจะเป็นมาตั้งนานแล้ว

 

ย้อนรอย 10 ปี เหรียญซีเกมส์ กับบทพิสูจน์ ทีมชาติไทย เจ้าแห่งอาเซียน 3

 

การลงทุนและระบบเยาวชน พื้นฐานของความยั่งยืน

 

อีกหนึ่งเบื้องหลังของทุกเหรียญรางวัล คือระบบที่ต้องสร้างด้วยเวลา

 

เพราะประเทศไทยเริ่มจึงหันมาเน้นการลงทุนในอนาคต มากกว่าผลลัพธ์เฉพาะหน้า ทั้งผ่านโครงการ Sports Hero, ศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติ, และเครือข่ายโรงเรียนกีฬาทั่วประเทศ เพื่อเฟ้นหานักกีฬาดาวรุ่งจากภูมิภาคต่างๆ และต่อยอดด้วยเทคโนโลยีทางกีฬา

 

สมาคมกีฬาหลายแห่งเริ่มใช้ข้อมูลจริงในการวิเคราะห์ศักยภาพนักกีฬา ผสมผสานแนวคิดของโค้ชต่างชาติ เข้ากับภูมิปัญญาการฝึกแบบไทย จนเกิดเป็นระบบฝึกซ้อมที่ยืดหยุ่นและทันสมัยขึ้นเรื่อยๆและเมื่อโครงสร้างเหล่านี้เติบโตอย่างมั่นคง ‘เหรียญรางวัล’ ในวันนี้…ก็ไม่ใช่จุดสิ้นสุดอีกต่อไป แต่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการสร้างนักกีฬารุ่นใหม่ที่พร้อมก้าวสู่ระดับเอเชียและโลก

 

ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ซีเกมส์พิสูจน์ให้เห็นว่า การเป็นผู้นำหรือเจ้าเหรียญทอง ไม่ได้หมายถึงการอยู่บนยอดตารางเหรียญเสมอไป

 

ประเทศไทยอาจไม่กวาดชัยชนะเหมือนเดิม แต่เรายังคงเป็นประเทศที่เพื่อนบ้านมองหาแรงบันดาลใจ จากเจ้าซีเกมส์ในอดีต วันนี้ไทยกำลังกลายเป็นผู้นำด้านแนวคิดและระบบพัฒนากีฬาในอาเซียน

 

และสุดท้าย…ผลลัพธ์ที่มีค่ากว่าเหรียญซีเกมส์ใดๆ คือการที่นักกีฬาไทยสามารถเปิดประตูบานต่อไป สู่เวทีที่ใหญ่กว่า เข้มข้นกว่า และยังคงทำผลงานได้ดีในระดับโลก

 

เพราะในท้ายที่สุดแล้ว…เหรียญทองอาจอยู่ไม่นาน แต่เชื่อเหลือเกินว่า ระบบที่สร้างยอดนักกีฬาควรจะอยู่กับเราตลอดไป 🥇

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising