×

สมาคม บลจ. คาดเม็ดเงินใหม่เข้ากองทุน Thai ESGX 3 หมื่นล้านบาท หวังเงินจาก LTF สับเปลี่ยนกองมากสุด

12.03.2025
  • LOADING...
thaiESGX-new-funds-2025

ยกสมาคม บลจ. คาดมีเม็ดเงินใหม่เข้ากองทุน Thai ESGX 3 หมื่นล้านบาท ส่วนมูลค่าเงินลงทุนจากการสับเปลี่ยนกองทุนจาก LTF คาดหวังวงเงินให้ได้มากที่สุด เชื่อหนุนประโยชน์ผู้ลงทุน เพิ่มสภาพคล่องใหม่ และช่วยชะลอแรงขายหุ้นไทย

 

ชวินดา หาญรัตนกูล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน (AIMC) และกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในงานแถลงสรุปภาวะตลาดหุ้นไทยเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ว่ากองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืนแบบพิเศษ (THAI ESG EXTRA หรือ TESGX) ประเมินว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนใหม่เข้ามาประมาณ 30,000 ล้านบาท โดยคาดการณ์ว่ากองทุน Thai ESGX จะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อในเดือนพฤษภาคมนี้ หลังจากที่ บลจ. หลายๆ แห่งได้จัดตั้งกองทุนใหม่และยื่นไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ในเดือนเมษายนนี้ เพื่อเสนอขายแก่นักลงทุนแล้วเสร็จ

 

ส่วนเม็ดเงินที่ย้ายจากกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เดิมนั้นคาดหวังให้มูลค่าเม็ดเงินย้ายเข้ามาให้มากที่สุด โดยปัจจุบันคาดว่าวงเงินมูลค่าคงค้าง LTF อยู่ระดับต่ำกว่า 180,000 ล้านบาท

 

“การประมาณการเม็ดเงินใหม่ 30,000 ล้านบาท เป็นการคาดการณ์จากสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีต โดยกองทุน TESGX ถือว่าเป็นกองทุนที่ชัดเจนในการลงทุนในหุ้น 65% ซึ่งขึ้นกับความสนใจของผู้ลงทุนด้วย” ชวินดากล่าว

 

ชวินดากล่าวว่า การตั้งกองทุนใหม่ TESGX มีเม็ดเงินใหม่เข้ามาในอุตสาหกรรม ถือว่าสร้างสภาพคล่องใหม่ให้กับการลงทุนในตลาดทุนไทยแล้ว ด้านนโยบายสิทธิประโยชน์เพื่อกองทุน LTF สามารถโอนเข้ามาใน TESGX สามารถหยุดแรงกดดันเรื่องการขาย ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์ 2 ส่วน และมองว่าเป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสม

 

ตลาดเปิดเกณฑ์ลงทุนของกอง TESGX

 

ด้าน ดร.ศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) กล่าวว่า เกณฑ์การลงทุนของกองทุน TESGX ที่เป็นเกณฑ์การลงทุนหุ้นไทย 65% จะต้องมีเงื่อนไข 1 ข้อ จาก 3 หัวข้อดังกล่าว ได้แก่

 

  1. หุ้นดังกล่าวมีเรตติ้งซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล รวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ที่มีเรตติ้งใน SET ESG Rating หรือ ในระดับสากลอื่นๆ เช่น FTSE, MSCI

 

  1. เป็นบริษัทที่เปิดเผยข้อมูลคาร์บอนว่าบริษัทปล่อยคาร์บอนฟุตพรินต์เป็นจำนวนเท่าไร ซึ่งตัวเลขดังกล่าวต้องได้รับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.)

 

  1. เป็นหุ้นที่ได้รับการสำรวจการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน (CGR) ซึ่งดำเนินการโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (Thai Institute of Directors: IOD) เกินกว่า 90 คะแนน และเปิดเผยข้อมูลใน ESG Data Platform ของตลาดฯ เกินกว่า 85% ของไอเท็ม

 

“สำหรับกรณีกลยุทธ์วายุภักษ์ยังเหลือเงินลงทุนอีกหลายหมื่นล้านบาท และเงินจากปันผลเข้ามา ดังนั้นเงินที่เป็นสภาพคล่องพร้อมตั้งรับซื้อหุ้นยังมีพร้อมตั้งรับ พร้อมซื้อหากใครขายออกมา แต่หากช่วยดันราคา สิ่งนั้นไม่ใช่นโยบายกองทุน”

 

รายชื่อหุ้น 242 บริษัท สำหรับ Thai ESG และ Thai ESGX

รายชื่อหุ้น 242 บริษัท สำหรับ Thai ESG และ Thai ESGX

รายชื่อหุ้น 242 บริษัท สำหรับ Thai ESG และ Thai ESGX

 

หุ้นไทยเดือนกุมภาพันธ์วูบ 17.9% ผลกระทบจากสงครามภูมิรัฐศาสตร์

 

ศรพลกล่าวว่า ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 SET Index อยู่ในช่วงปรับฐานซึ่งลดลงกว่า 17.9% จากระดับสูงสุดในรอบนี้ ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ในระดับที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับแนวโน้มในอดีต และหากพิจารณามูลค่าพื้นฐานของตลาดพบว่าระดับ P/E อยู่ที่ 12.5-16.6 เท่า และ P/BV เพียง 1.2-1.4 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยรอบการปรับฐานครั้งก่อนๆ อย่างมีนัยสำคัญ

 

การปรับฐานของตลาดในรอบนี้หุ้นที่ปรับตัวลดลงมากส่วนใหญ่มาจากกลุ่มหุ้นที่มี P/E Ratio สูง ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดกำลังมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงและการประเมินมูลค่าหุ้นที่สูงเกินไป ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนพยายามออกมาตรการเพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของ SET Index โดยเน้นด้านการเติบโตของเศรษฐกิจอย่างแข็งแกร่ง การจำกัดความเสี่ยงจากนโยบายกีดกันทางการค้า รวมถึงมีปัจจัยขับเคลื่อนตลาดหุ้นโดยเฉพาะการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนใหม่และส่งเสริมการเพิ่มมูลค่าของ บจ. และยกระดับ CG

 

โดยรายละเอียดภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทยเดือนกุมภาพันธ์ 2568 มีดังนี้

  • ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 SET Index ปิดที่ 1,203.72 จุด ลดลง 8.4% จากสิ้นเดือนมกราคม 2568 ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาค ส่งผลให้ตั้งแต่ต้นปีถึงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 SET Index ปรับลดลง 14.0%
  • กลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีกว่า SET Index เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2567 ได้แก่ กลุ่มการเงิน กลุ่มเกษตรและอาหาร กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มบริการ และกลุ่มทรัพยากร
  • มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยรายวันรวมของ SET และ mai ปรับขึ้นไปอยู่ที่ 52,041 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเห็นสัญญาณเกี่ยวกับมูลค่าการซื้อขายผู้ลงทุนสถาบันในประเทศเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับสูงกว่า 10% ของมูลค่าซื้อขายทั้งหมดห้าเดือนต่อเนื่อง
  • บริษัทเข้าจดทะเบียนใหม่ซื้อขายใน mai 1 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ.มาเธอร์ มาร์เก็ตติ้ง (MOTHER)
  • Forward P/E ของตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 อยู่ที่ระดับ 12.6 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 12.3 เท่า และ Historical P/E อยู่ที่ระดับ 15.3 เท่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ระดับ 14.2 เท่า
  • อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2568 อยู่ที่ระดับ 4.03% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียซึ่งอยู่ที่ 3.27%

 

ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) เดือนกุมภาพันธ์ 2568

  • ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 485,359 สัญญา เพิ่มขึ้น 24.0% จากเดือนก่อน ที่สำคัญจากการเพิ่มขึ้นของ Single Stock Futures และ SET50 Index Futures ทำให้ในปี 2568 มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 434,992 สัญญา ลดลง 10.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่สำคัญจากการลดลงของ SET50 Index Futures และ Gold Online Futures

 

ภาพ: Witthaya Prasongsin / Getty Images

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising