กานต์นิธิ ทองธนากุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุน Merkle Capital และผู้ก่อตั้งเพจ Kim DeFi Daddy และ Bitcoin Addict Thailand ในฐานะกรรมการสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย เปิดเผยในรายการ The Secret Sauce ว่าจากการสอบถามของสมาคมกับผู้เกี่ยวข้องถึงแนวทางการจัดเก็บภาษีสินทรัพย์ดิจิทัลที่เหมาะสมกับประเทศไทยเพื่อยื่นเสนอให้กรมสรรพากรได้พิจารณา เบื้องต้นมีความเห็นที่ตรงกันว่า ควรอยู่ในรูปแบบของ Transaction Tax ในอัตรา 0.1%
เขากล่าวด้วยว่า ปัจจุบันผู้ประกอบการ Exchange ไทยมีการเก็บค่าธรรมเนียมการซื้อขายหรือ Transaction Fee ที่อัตรา 0.25% ต่อธุรกรรม ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับ Exchange อื่นๆ โดยเรื่องนี้สะท้อนได้จากรายได้ของ Exchange รายใหญ่เจ้าหนึ่งซึ่งในปีที่ผ่านมามีรายได้สูงถึง 4-5 พันล้านบาท ทำให้สมาคมมองว่ารายได้ส่วนนี้จะสามารถหักเป็น Transaction Fee เพื่อส่งมอบให้กับกรมสรรพากรเป็น Final Tax ไปเลยได้หรือไม่
“โดยส่วนตัวมองว่า แนวทางนี้น่าจะทำให้นักเทรด นักขุด สบายใจได้มากขึ้นว่าทุกธุรกรรมที่เกิดขึ้นพวกเขามีการเสียภาษีอย่างถูกต้องแล้ว จะได้ไม่ต้องมากังวลว่าจะเสีย VAT หรือเสียอะไรอีกในอนาคต แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคงต้องมีการสอบถามความเห็นจากผู้ประกอบการ Exchange ด้วย เพราะเขาได้รับผลกระทบ” กานต์นิธิกล่าว
กานต์นิธิกล่าวอีกว่า การที่กฎหมายภาษีคริปโตในปัจจุบันกำหนดให้มีการหัก 15% ล่วงหน้านั้น ในทางปฏิบัติแทบเป็นไปไม่ได้เลยหรือทำได้ยากมาก เนื่องจากผู้ขายไม่รู้ว่าขายคริปโตให้ใคร เพราะเป็นการขายผ่าน Exchange ที่มีการแบ่งออร์เดอร์ แม้ว่าจะโยนภาระตรงนี้ออกไปให้ Exchange เป็นคนทำก็ยังอาจมีปัญหาตามมาได้อยู่ดี เช่น นาย ก. กดซื้อบิทคอยน์หนึ่งเหรียญ มีการหัก 15% ออกไปแล้ว แต่ได้ไม่ครบ Exchange จะต้องมาชี้แจงอีกว่าทำไมไม่ครบ นักลงทุนก็จะเกิดคำถามอีกว่าที่หักไปถูกต้องแล้วหรือไม่
“เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นเราจึงพยายามหาโซลูชันที่มันเป็น Final Tax จริงๆ แต่ทั้งหมดนี้ยังอยู่ในช่วงหารือกัน ยังไม่ใช่ข้อสรุปสุดท้าย” กานต์นิธิกล่าว
ขณะที่ ศุภกฤษฎ์ บุญสาตร์ นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย กล่าวว่า ขณะนี้ทางสมาคมได้แบ่งการพูดคุยประเด็นเรื่องภาษีออกเป็น 2 ประเด็น คือสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตมาจนถึงปัจจุบันกับเรื่องในอนาคต โดยประเด็นแรก เช่น ความชัดเจนเรื่องมุมมองของภาครัฐที่มีต่อสินทรัพย์ดิจิทัล การจะปรับให้เอาส่วนที่ขาดทุนมาหักกำไรได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องเร่งเคลียร์ให้จบก่อน เพราะความตั้งใจของกรมสรรพากรคือต้องมีความชัดเจนภายในเดือนนี้ เพื่อให้คนยื่นภาษีทันภายในไตรมาสแรก
“ในส่วนนี้สรรพากรจะช่วยร่างคำถามที่เป็นลักษณะออปชันให้ เพื่อให้เป็นไปได้ในทางปฏิบัติ โดยสมาคมจะทำหน้าที่รวบรวมความเห็นจากผู้มีส่วนร่วมทุกฝ่าย นอกจากนี้สมาคมจะมีการจัดทำวิดีโออธิบายด้วยว่าแต่ละออปชันที่สรรพากรเสนอมาหมายถึงอะไร แล้วจะส่งผลอย่างไร เพื่อให้คนเลือกถูก เป็นการเอาภาษากฎหมายมาทำให้เข้าใจง่ายๆ” ศุภกฤษฎ์กล่าว
ศุภกฤษฎ์กล่าวว่า ในระยะเร่งด่วนหรือสำหรับการยื่นภาษีในรอบนี้สมาคมจะเสนอให้สามารถเอากำไร ขาดทุน มาหักลบกันได้ และไม่ต้องไปไล่ทำภาษีหัก ณ ที่จ่าย แต่ในอนาคตจะเสนอให้ปรับมาเก็บแบบ Transaction Tax ขณะเดียวกันยังอยากเห็นภาษีสำหรับบริษัทในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลที่ต้องการเข้ามาเปิดในเมืองไทยเป็น 0% เพื่อผลักดันให้ไทยเป็นฮับของสินทรัพย์ดิจิทัลในภูมิภาค
“นอกจากภาษีแล้วเราควรมีสิทธิประโยชน์อื่นๆ เพื่อดึงดูดบริษัทเหล่านี้ด้วย เช่น วีซ่าหรือพื้นที่พิเศษอย่าง EECi ซึ่งหากไทยได้บริษัทเหล่านี้เข้ามา คนเก่งจะตามเข้ามา ช่วยสร้างงานให้กับคนในประเทศ เป็นโอกาสที่เราจะสร้างอุตสาหกรรมยุคใหม่ขึ้นมาในประเทศ” ศุภกฤษฎ์กล่าว
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP