ไทยเบฟอยู่ระหว่างพิจารณานำธุรกิจเหล้าเข้าตลาดหุ้นสิงคโปร์ หลังเลื่อนแผนนำ BeerCo เข้าระดมทุนในตลาดหุ้นสิงคโปร์มาแล้ว 3 ครั้ง คาดหากดีลเกิดขึ้นจะมีมูลค่าตั้งแต่ 5 พันล้าน ไปจนถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์
Bloomberg รายงานว่า บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในบริษัทเครื่องดื่มที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อยู่ระหว่างศึกษาทางเลือกใหม่ให้กับกลุ่มธุรกิจเหล้า รวมถึงการนำเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์
แหล่งข่าวระบุว่า ไทยเบฟได้เริ่มปรึกษาธนาคารเกี่ยวกับการขายหุ้นของโรงงานผลิตเหล้าแบรนด์แม่โขงและรวงข้าวที่เป็นกลุ่มที่ขายดีที่สุดในประเทศ ซึ่งกระบวนการดังกล่าวยังอยู่ระหว่างพิจารณา ยังไม่มีการตัดสินใจ
ทั้งนี้ หากดีลดังกล่าวเกิดขึ้นอาจมีมูลค่าอย่างน้อย 5 พันล้านดอลลาร์ หรืออาจจะมีมูลค่ามากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ทางไทยเบฟยังไม่ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ‘ไทยเบฟ’ ทุ่ม 8 พันล้านบาท ลุยธุรกิจนอนแอลฯ ชี้เทรนด์สุขภาพอาจกระทบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ด้านแผนปรับโครงสร้าง Sabeco เวียดนามสะดุด
- ‘ไทยเบฟฯ’ เตรียมรุกธุรกิจใหม่ ‘สถานีชาร์จรถไฟฟ้า’ ย้ำไม่เข้าซื้อ KFC ของ RD เพราะบริษัทแม่อยากให้มีแฟรนไชส์ 3 ราย
- เบียร์พรีเมียมแมสพุ่ง เพราะคนไทยหันมาดื่มวันธรรมดาโดยไม่ต้องรอเทศกาล ‘ไทยเบฟ’ สบโอกาส ทุ่มพันล้านส่ง ‘ช้าง โคลด์ บรูว์’ บุกช่องทางโชห่วย
แน่นอนว่าแผนการดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางการต่อสู้ของไทยเบฟ ที่ก่อนหน้านี้ได้เลื่อนแผนนำธุรกิจเบียร์เสนอขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์มาถึง 3 ครั้ง เพื่อหวังระดมทุนมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ แต่ยังไม่สำเร็จ และหากสำเร็จจะกลายเป็นการระดมทุนครั้งใหญ่ที่สุดของสิงคโปร์
กระทั่งในปี 2565 ฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า แผนนำธุรกิจเบียร์หรือเบียร์โค (BeerCo) เข้าตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์นั้นยังคงเดินหน้าตามแผนเดิม แต่สภาพตลาดโดยรวมยังไม่เอื้อมากนัก ยังมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องที่ต้องพิจารณา จึงต้องรอจังหวะเมื่อตลาดพร้อม ซึ่งยังไม่สามารถคาดการณ์ได้
สำหรับผลประกอบไทยเบฟปี 2565 มีรายได้ 2.7 แสนล้านบาท (7.9 พันล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 13.2% และมีกำไรสุทธิ 3.4 หมื่นล้านบาท เติบโต 26.2% ถือเป็นการกลับมาโตเท่ากับก่อนเกิดโควิด โดยธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์คิดเป็น 42.7% ของรายได้ทั้งหมด ส่วนธุรกิจเหล้าทำรายได้เป็นอันดับ 2 รองจากธุรกิจเบียร์ ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2566 มีรายได้ 33,718 ล้านบาท ลดลง 6.4% จากปีก่อน เนื่องจากปริมาณการขายที่ลดลง และเป็นผลจากตลาดมีการเพิ่มสต๊อกสินค้าช่วงก่อนการขึ้นราคา
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจของไทยเบฟอยู่ในมือของ เจริญ สิริวัฒนภักดี บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย โดยมีมูลค่าทรัพย์สินรวม 3.94 แสนล้านบาท
และตามรายงานของ Bloomberg Billionaires Index ระบุว่า บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งธุรกิจ กำลังพิจารณาที่จะเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปในไทย โดยมีมูลค่าประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้
อ้างอิง: