วันนี้ (24 เมษายน) เจ้าหน้าที่ทหารจับกุมคนไทยที่ลักลอบหนีเข้าประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติกว่า 20 คน ที่ช่องทางท่าข้ามธรรมชาติ ชุมชนหัวสะพาน อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส โดยทั้งหมดได้นั่งเรือข้ามเข้ามาทางลำน้ำสุไหงโก-ลก บริเวณใต้สะพานข้ามพรมแดน ด่านสุไหงโก-ลก ส่วนใหญ่เป็นแรงงานจากร้านอาหาร
ขณะที่สาเหตุที่ไม่ได้เข้ามาถูกต้องตามระบบ เนื่องจากไม่ได้ไปลงทะเบียนกับสถานทูตไทย จึงเลือกใช้ช่องทางธรรมชาติข้ามมาเพื่อให้ทันถือศีลอดที่บ้านตนเอง ซึ่งวันนี้เป็นวันแรกของการถือศีลอด โดยแต่ละคนที่ประสงค์จะข้ามฝั่งมาต้องเสียค่าเรือจากท่าเรือฝั่งมาเลเซียคนละ 60 ริงกิต หรือประมาณ 600 บาท เป็นค่าดำเนินการ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้หลบหนีทั้งหมดส่งไปดำเนินคดีฐานลักลอบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ก่อนส่งตัวทุกคนเข้าระบบคัดกรองโรคของด่านและนำเข้า Local Quarantine กักกันตัวต่อไปเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรคโควิด-19
ด้าน พล.ต. ศานติ ศกุนตนาค ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 เปิดเผยว่ากลุ่มที่หลบหนีเข้าประเทศมาตอนนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกรณีที่มาเลเซียปิดประเทศ และทราบว่ามีการขยายเวลาปิดประเทศออกไปอีก 2 สัปดาห์จึงหนีเข้ามา ประกอบกับเป็นช่วงถือศีลอดเดือนรอมฎอน ถ้ายังอยู่ในฝั่งมาเลเซียก็จะลำบากหลายเรื่อง ทั้งอาหารการกิน ความเป็นอยู่ ทุกคนรู้ว่าเข้ามาผิดกฎหมาย แต่ก็ยอม
“ตลอดแนวช่องทางธรรมชาติ ขณะนี้ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ทหารดูแลในทุกพื้นที่ แต่เมื่อกลุ่มบุคคลเหล่านี้เข้ามาแล้วก็ต้องดูแลตามหลักมนุษยธรรม เพราะทุกคนเป็นคนไทย ส่วนเรื่องผิดกฎหมายก็ว่ากันไปตามระบบ” พล.ต. ศานติ กล่าว
ภาพ: กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์