เป็นเวลาหลายปีแล้วที่เราพูดถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมสื่อ เนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของเทคโนโลยีดิจิทัลที่ส่งผลกระทบทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุมาก่อนหน้านี้ แต่ดูเหมือนว่าในปีที่ผ่านมาสื่อยักษ์ใหญ่อย่างวงการโทรทัศน์กำลังคิดหนักถึงการหาเส้นทางใหม่ๆ อย่างที่ได้เห็นช่องทีวีเจ้าตลาดเริ่มปรับแผน ปรับผังกันจ้าละหวั่น ปังบ้าง แป้กบ้าง สลับกันไป 

ส่วนละครไทยที่ถือเป็นคอนเทนต์หลักกระชากเรตติ้งของแต่ละช่อง ก็เรียกได้ว่ามีทั้งเรื่องเซอร์ไพรส์และน่าผิดหวัง ในปีนี้เราได้เห็นบางทีวีช่องกลับมาท็อปฟอร์ม ส่วนบางช่องอาจต้องทบทวนว่าเส้นทางที่เคยเดินใกล้ถึงทางตันแล้วหรือยัง และนี่คือบทสรุปปรากฏการณ์ของละครทีวีไทย 2566 

มาตาลดา

การกลับมาท็อปฟอร์มของวิก 3 พระราม 4

จะเรียกว่าเป็นปีทองของช่อง 3 ก็คงไม่ผิด เพราะปีนี้มีละครหลายเรื่องได้ทั้งเรตติ้งและกระแสในโลกออนไลน์ทั้งแบบตั้งใจและไม่ตั้งใจ เริ่มตั้งแต่ต้นปีกับ ที่สุดของหัวใจ ละครม้ามืดที่คว้าทั้งเรตติ้งและยอดคนดูออนไลน์ทั้งๆ ที่ถูกโรคเลื่อนจากพิษ Forex-3D ด้วยเนื้อหาแนวเมโลดราม่าแต่ลงรายละเอียดเรื่องบทและโปรดักชันจนชนะใจคนดูในที่สุด ตามมาด้วย หมอหลวง ละครในจักรวาล ทองเอก หมอยาท่าโฉลง แม้จะได้รับอานิสงส์จาก ทองเอกฯ มาบ้าง แต่ก็ไม่เท่ากับการทำการบ้านมาอย่างดี สอดแทรกเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับแพทย์แผนไทยและเกร็ดประวัติศาสตร์ ผสานเข้ากับความตลกโบ๊ะบ๊ะ เป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่าถ้าเรื่องราวมีสาระแต่มาเล่าอย่างสนุกสนานก็มีคนดู ตามมาด้วย มาตาลดา ละครว่าด้วยประเด็นสมัยใหม่เรื่องครอบครัว LGBTQIA+ ทำเรตติ้งสูงสุดไปที่ 5.75 และผู้ชมออนไลน์ทะลุหลักล้านพร้อมกับคำชื่นชม  

ความสำเร็จของช่อง 3 เด่นชัดมากขึ้นในละครครึ่งปีหลัง ด้วยพาเหรดละครฟอร์มใหญ่ ไล่ตั้งแต่ แค้น ดัดแปลงจาก พรหมจารีสีดำ แม้จะถูกวิจารณ์เรื่องความรุนแรงไปบ้างแต่ก็สร้างกระแสในโลกออนไลน์ได้พอสมควร ต่อด้วย เกมรักทรยศ ละครรีเมกจากซีรีส์เรื่องดังที่ทุกคนรอคอยก็เหมือนเป็นการแก้คำสาปว่าช่อง 3 ทำละครรีเมกแล้วแป้กไปได้ สานต่อความสำเร็จด้วย พรหมลิขิต ภาคต่อของ บุพเพสันนิวาส คว้าเรตติ้งเปิดตัวไปได้ถึง 6.40 ทำลายทุกสถิติของละครตอนแรก หลังจากนั้นไม่นานช่อง 3 ปรับผังให้ละครออกอากาศ 3 วันต่อสัปดาห์ จนเรียกได้ว่าละครเรื่องนี้แทบจะเป็นละครไทยเรื่องเดียวที่คนพูดถึงในช่วงเวลาการออกอากาศ 

ลมพัดผ่านดาว 

ช่อง 7 สีกับเรตติ้งที่หายไป

ละครช่อง 7 ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าแม่เรตติ้งด้วยฐานคนดูในต่างจังหวัดที่ยังชมโทรทัศน์เป็นสื่อหลักอยู่ แต่เพราะอะไรในครึ่งปีแรกของละครช่อง 7 กลับได้เรตติ้งเฉลี่ยไม่ถึงเลข 5 แม้กระทั่งละครบู๊ที่เคยเป็นเหมือนเรือธงของช่องทั้ง เพลิงไพร, กล้า ผาเหล็ก และ ขวางทางปืน ก็คว้าเรตติ้งเฉลี่ยที่เลข 4 ปลายๆ หรือแม้แต่ละครฟอร์มใหญ่อย่าง เภตรานฤมิตร ที่ได้คู่ขวัญประจำช่องอย่าง ไมค์-ภัทรเดช สงวนความดี และ มุกดา นรินทร์รักษ์ มาร่วมแสดงก็คว้าเรตติ้งไปแบบทรงๆ ซึ่งถ้าหากดูสถิติย้อนหลังละครช่อง 7 เริ่มมีละครเรตติ้งระดับเลข 3 มากขึ้นเรื่อยๆ 

มาถึงช่วงครึ่งปีหลังช่อง 7 แก้เกมด้วยการส่ง ลมพัดผ่านดาว ละครครบองค์ประกอบความฮิต ทั้งทีมนักแสดงนำโดย อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ, เข้ม-หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล, ติ๊ก-เจษฎาภรณ์ ผลดี แถมยังมีฉากจิ้นๆ แบบซีรีส์วายที่ได้ มิว-ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์ มาร่วมด้วยอีกต่างหาก รวมทั้งโปรดักชันด้านภาพที่ออกมาสวยงาม แต่กลับมองข้ามสิ่งสำคัญที่สุดไปนั่นคือบท ยิ่งเมื่อมาผนวกกับการปรับผังลดเวลาละครให้เหลือเพียง 1 ชั่วโมง แม้จะออกอากาศ 4 วันต่อสัปดาห์ แต่เนื้อหาไม่น่าดึงดูด จนคนดูที่เคยคิดว่าติดทีวีเอาเวลาไปไถ TikTok ดีกว่า เรตติ้งของละครเรื่องนี้จึงออกมาในระดับตกต่ำจนน่าใจหาย ถึงตอนนี้จะแก้เกมด้วยละครแนวแอ็กชันผจญภัยอย่าง แม่โขง เรตติ้งก็ยังคงทรงๆ ทรุดๆ ที่พอจะมีกระแสอยู่บ้างในโลกออนไลน์ก็เห็นจะเป็นมีมจากฉากบ่วงบาศคล้องพญานาคจากละครเรื่องนี้เท่านั้นเอง 

รักร้าย 

2566 อาจไม่ใช่ปีที่ดีของช่อง one31

เปิดผังละครช่อง one31 ตั้งแต่ช่วงต้นปีมีละครน่าสนใจอยู่หลายเรื่อง แต่กลายเป็นว่าปีนี้กลับไม่มีเรื่องไหนสร้างกระแสทอล์กออฟเดอะทาวน์ได้เหมือนปีที่ผ่านมา แม้แต่ รักร้าย ที่ได้ ใหม่-ดาวิกา โฮร์เน่ มาประกบคู่กับ มิว-ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์ ร่วมด้วย เจษฎ์-เจษฎ์พิพัฒ ติละพรพัฒน์ และ แหม่ม-คัทลียา แมคอินทอช แถมได้บทโทรทัศน์ที่เขียนขึ้นใหม่โดย เนปาลี หรือ เจี๊ยบ-วรรธนา วีรยวรรธน เนื้อหาว่าด้วยการหลอกลวงในโลกสมัยใหม่ที่ถือว่าดีมาก แต่ด้วยกระแสแอนตี้นางเอกแก๊ง ม. ในช่วงนั้น ละครเรื่องนี้จึงได้กระแสในระดับแผ่วๆ อย่างน่าเสียดาย 

ส่วน VIP รักซ่อนชู้ ผลงานการรีเมกจากซีรีส์เกาหลีเรื่องดังก็ดูท่าว่าจะไปได้ดี ยิ่งออกอากาศแทบจะต่อจาก เกมรักทรยศ ทางช่อง 3 ก็มีความเป็นไปได้ที่แฟนๆ ละครแนวผัวๆ เมียๆ จะย้ายมาดูกันต่อที่ช่อง one31 แต่ดันมาเจอสายแข่งอย่างละคร พรหมลิขิต เข้าไป ทำให้ละครเรื่องนี้กลับไม่ปังอย่างที่หวังซะอย่างนั้น  

หารักด้วยใจเธอ Find Yourself

อยู่อย่างเหงาๆ ของเหล่าช่องเล็กช่องน้อย 

ปีที่แล้วมีผลงานจากช่องเล็กสร้างปรากฏการณ์ความฮิตออกมามากเป็นพิเศษ แต่ปีนี้กลับเงียบเหงา แม้แต่ช่อง 8 ที่ทำละครสายแมสก็ยังไม่อาจสร้างกระแสได้ ถ้าจะหวือหวาสักหน่อยก็เห็นจะเป็นละคร เลือดกากี ที่ออกอากาศทั้งเวอร์ชันปกติช่วงหัวค่ำ และเวอร์ชัน Uncut หลัง 4 ทุ่ม แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับเงียบเหงาเมื่อเทียบกับ บ่วงใบบุญ เมื่อปีที่แล้ว 

ในขณะที่อมรินทร์ทีวีที่พอมีกระแสจากคัตซีนในโลกออนไลน์อยู่บ้างก็คือ สงครามเงิน ส่วน GMM25 ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมายังไม่ค่อยมีกระแสแบบ ด้วยรักและหักหลัง อย่างปีที่แล้ว แต่ก็ปล่อยหมัดเด็ดส่งท้ายปลายปีด้วย หารักด้วยใจเธอ Find Yourself ผลงานของ แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ และ นนกุล-ชานน สันตินธรกุล คู่จิ้นที่มีแววจะเป็นคู่จริง และ Cherry Magic 30 ยังซิง ผลงานใหม่ของ เต-ตะวัน วิหครัตน์ และ นิว-ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ

พรหมลิขิต 

ละครฟอร์มใหญ่ถ้ามีแต่ความลำไยก็ไม่ไหวจะเคลียร์ 

เรียกว่าปีนี้ละครฟอร์มใหญ่ทำออกมาได้น่าผิดหวัง นับตั้งแต่ปรากฏการณ์ พรหมลิขิต ที่ตอนต้นฟิตปลายสู่ขิตซะอย่างนั้น ทั้งที่ตอนแรกเปิดประเด็นประวัติศาสตร์ให้คนดูไปสืบค้นข้อมูลกันต่อได้น่าสนใจ แต่พอผ่านไปเรื่อยๆ เนื้อหาของเรื่องกลับวนๆ ไปมาอยู่ที่เจอกัน สะดุดล้ม รักกัน งอนกัน ช็อตฟีลและขยันสโลโมชัน และโคลสอัพหน้าอารมณ์ซีรีส์อินเดียเรื่อง นาคิน ‘ข้าต่างหากคือรูฮี’ จนเกิดกระแสตีกลับ แม้เรตติ้งจะยังอยู่ในระดับที่ดี แต่แววว่าจะประสบความสำเร็จแบบภาคแรกคงไม่มี

ส่วน ลมพัดผ่านดาว แม้ได้ดาราระดับแม่เหล็กแต่เนื้อหายังวนลูปอยู่กับสูตรละครเดิมๆ ก็ไม่อาจการันตีความสำเร็จได้อีกต่อไป ซึ่งละครเรื่องนี้กลายเป็นบทเรียนของช่อง 7 ทั้งในแง่เนื้อหาของละคร และการปรับกลยุทธ์การออกอากาศทั้งกับฐานคนดูเดิมและเพิ่มฐานคนดูใหม่ในอนาคต 

My Undercover Chef มือปราบกระทะรั่ว 

เส้นทางใหม่ๆ ของวงการทีวีไทย

หลังจาก บอย-ธิติพร จุติมานนท์ นักข่าวอาวุโสสายบันเทิง เปิดประเด็น “ทีวีไทยเข้าขั้นวิกฤต ละครรีรันเกือบทุกช่องเพื่อลดต้นทุน ช่องใหญ่ลดเวลาละครครั้งแรกตั้งแต่เมืองไทยมีโทรทัศน์ ตอนนี้คนทีวีหนีตายเพราะอะไร?” ก็กลายเป็นที่พูดถึงในโลกออนไลน์ และสะท้อนสถานการณ์จริงของวงการทีวีไทยทุกวันนี้จริงๆ

ในปีที่ผ่านมาเราได้เห็นว่าโทรทัศน์กำลังถูกลดบทบาทจนอาจไม่ใช่สื่อหลักสำหรับแลนดิ้งคอนเทนต์ดีๆ อีกต่อไป หลายช่องเริ่มปรับตัวไปสู่การสร้างซีรีส์หรือละครเพื่อเสิร์ฟแพลตฟอร์มออนไลน์ ก่อนเอามาออกอากาศทางโทรทัศน์กันแล้ว หรือไม่ก็ผลิตแบบเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับแพลตฟอร์มนั้นๆ ไปเลย เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะ GMMTV ก็ทำแบบนี้มาก่อน 

แต่ในปีนี้ช่องใหญ่อย่างช่อง 3 ก็ประเดิมผลงานของ BEC Studio ด้วยการผลิตละคร The Office Games ร้อยเล่มเกมส์ออฟฟิศ และ My Undercover Chef มือปราบกระทะรั่ว ให้กับ Prime Video รวมทั้งค่าย MONO กับผลงาน เปลือกรักปมลวง HANGOUT สตรีมผ่าน MONOMAX และที่น่าจับตามองคือ oneD Original ที่เพิ่งปล่อยทีเซอร์คอนเทนต์ที่กำลังจะเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า ซึ่งคาดว่านี่อาจเป็นการปลุกปั้นแอปพลิเคชัน oneD ให้ดูน่าตื่นตาตื่นใจขึ้นไปอีก ทั้งหมดน่าจะเป็นการชดเชยรายได้จากค่าโฆษณาที่เสียไปสู่การเก็บค่าสมาชิก แล้วยังเอามาออกอากาศทางทีวีได้อีกต่อหนึ่ง