×

ชาไทยกำลังแซงกาแฟ? วิเคราะห์ตลาดชาโตสวนกระแส ธุรกิจใหม่มาแรงแห่งปี 2025

04.09.2025
  • LOADING...
แก้วชาไทยพรีเมียมสวยงาม วางบนโต๊ะร้าน Specialty Tea พร้อมฉากหลังโมเดิร์น

ในอดีตเมื่อพูดถึงธุรกิจเครื่องดื่ม ภาพแรกที่หลายคนนึกถึงคือกาแฟ เครื่องดื่มที่เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ทั่วโลก 

 

แต่วันนี้อีกหนึ่งคู่แข่งที่กำลังมาแรง และอาจไม่ใช่แค่แฟชั่นชั่วคราว ก็คือ ‘ชา’ โดยเฉพาะกลุ่มชาเพื่อสุขภาพ – ชาพรีเมียม – ชาไลฟ์สไตล์ จนมีคำกล่าวที่พูดกันหนาหูว่า 

 

“Tea is the new coffee”

 

🟡 ตลาดชาโตสวนกระแสจริงหรือ?

 

ข้อมูลจาก LINE MAN Wongnai สะท้อนภาพว่าเทรนด์นี้ไม่ใช่กระแสชั่วคราว:

 

🔸ร้านชาไทย Specialty เปิดใหม่โต 205% ภายใน 3 ปี

 

🔸 ปี 2024 เพียงปีเดียว ยอดสั่งชาไทยเดลิเวอรีแตะ 400,000 แก้ว เติบโตถึง 81%

 

🔸กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางชาที่ใหญ่ที่สุด มีสัดส่วนร้านถึง 46% ของประเทศ

 

เมื่อเทียบกับร้านกาแฟที่แม้ยังเติบโต แต่เริ่มชะลอตัวลง โดยครึ่งปีแรกของปี 2025 ร้านกาแฟเปิดใหม่เหลือเพียง 5,000 ร้าน จาก 7,000 ร้านในปี 2024 ทว่ายอดขายของร้านกาแฟเดิมโตขึ้น 5% สวนทางร้านอาหารทั่วไปที่รายได้ลดลง 14% แปลว่ายังพอไปต่อได้ เพราะผู้บริโภคยุคใหม่เน้นการมองหาสินค้าคุณภาพดีในราคาเข้าถึงง่าย

 

ตลาดชาในมุมนี้จึงถือว่า เป็นสนามใหม่ที่กำลังร้อนแรง

 

🟡 ทำไม ชา ถึงไม่ใช่แค่แฟชั่น?

 

นักวิเคราะห์คาดว่า ภายในปี 2028 ตลาดชาอาจพุ่งแตะ 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โตต่อเนื่องปีละกว่า 10% เทรนด์นี้จึงไม่ใช่แค่กระแส แต่เป็นโอกาสทางธุรกิจที่เปิดกว้าง โดยเฉพาะสำหรับผู้ประกอบการไทยที่มีซัพพลายเชนชาที่แข็งแรงอยู่แล้ว

 

ในส่วนของผู้บริโภคยุคใหม่ ก็มีมุมมองต่อชาที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น

 

🔸 สุขภาพมาก่อน –  ชามีสารต้านอนุมูลอิสระสูง คาเฟอีนต่ำกว่ากาแฟ แต่ยังช่วยให้ตื่นตัวได้ จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อสุขภาพสำหรับคนที่อยากลดกาแฟ

 

🔸ไลฟ์สไตล์ & โซเชียลมีเดีย – วันนี้แก้วชาไม่ใช่แค่เครื่องดื่ม แต่เป็น ‘แฟชั่นไอเทม’ ร้านชาหลายแห่งออกแบบร้านให้สวยงาม ทันสมัย เหมาะกับการถ่ายรูปลงโซเชียล คล้ายกับสิ่งที่กาแฟเคยทำมาก่อน

 

🔸นวัตกรรม & การปรับแต่ง (Customization) – ผู้บริโภคสามารถเลือกได้ว่าจะเอาชาแบบไหน ความหวานเท่าไหร่ ใส่นมไหม หรือท็อปปิงอะไร คล้ายกับประสบการณ์ออกแบบกาแฟในร้านพรีเมียม

 

🟡 กรณีศึกษาจากผู้เล่นจริงในสนามชา

 

🔸Karun Thai Tea (การันชาไทย) – แบรนด์ที่ยืนหยัดขายชาไทยอย่างเดียว แต่แตกกลิ่นและฟอร์แมตหลากหลาย พร้อมเป้าหมายผลักดันชาไทยสู่ตลาดโลก

 

🔸Nose Tea – ชู ‘ชีส’ เป็นจุดขายหลัก ไม่แข่งขันด้วยไข่มุกเหมือนคนอื่น แต่สร้าง Top of Mind เรื่องชีส พร้อมทดลองเมนู Local พิเศษ เช่น ชา+ข้าวหลาม ที่บางแสน และโมเดลไดรฟ์ทรู

 

🔸MTCH (เอ็มทีซีเอช) – เน้นความเป็น High-End Matcha ที่สะท้อนคุณภาพ สร้างคัลเจอร์การดื่มชาแบบพรีเมียม และโฟกัสที่ซัพพลายเชนที่มั่นคง

 

🔸ชาแบรนด์จีนพรีเมียม – เช่น ชาจี ที่เพิ่งมีข่าวการร่วมทุนกับเครือสหพัฒน์ มาเจาะเซกเมนต์ 80–100 บาท/แก้ว ซึ่งกำลังฮิตสุดในไทย

 

🟡 โอกาส & บทเรียนสำหรับผู้ประกอบการ

 

🔸หาจุดต่างให้ชัดเจน – การทำเหมือนคนอื่นในราคาถูกกว่าไม่ใช่ทางรอดอีกต่อไป

 

🔸โปรดักต์คือการตลาด – ลงเวลา 80% ไปกับการพัฒนาสินค้า เพราะสินค้าที่ดีคือตัวขายที่แท้จริง

 

🔸เริ่มเล็ก เรียนรู้เร็ว – ทดลองตลาดด้วยการเปิดบูธเล็ก ๆ เก็บฟีดแบ็ก แล้วค่อยขยาย

 

🔸เล่าเรื่อง (Storytelling) & สร้างประสบการณ์ – ลูกค้ารุ่นใหม่ไม่ได้ซื้อแค่รสชาติ แต่ซื้อประสบการณ์และภาพลักษณ์ ที่มาพร้อมชา

 

แท้จริงแล้ว ชาอาจไม่ใช่แค่กาแฟใหม่ แต่กำลังกลายเป็น ‘ทางเลือกหลัก’ ของผู้บริโภคยุคใหม่ การทำร้านชาเป็นสนามที่น่าลงเล่น แต่ต้องหาจุดแข็งให้เจอ และพร้อมสร้างแบรนด์ที่แตกต่างจริง

 

ชมคลิป: 

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising