สาวก ‘ชาไทย’ ยกมือขึ้น! พบ ‘ชาตรามือ’ เป็นแบรนด์ที่ปังสุดในโลกโซเชียลมีเดีย

ไม่ว่าจะคนไทยหรือชาวต่างชาติ เมื่อได้ลิ้มลอง ‘ชาไทย’ แล้วต่างก็หลงรักเครื่องดื่มรสชาติหวานหอมกลมกล่อม จนถึงขั้นได้รับการจัดอันดับจากเว็บไซต์ TasteAtlas ให้เป็น 1 ใน 10 เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ที่ดีที่สุดในโลก

จากกระแสความนิยมของเครื่องดื่มสีส้มนี้ บริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด จึงได้นำเครื่องมือ DXT360 มาใช้เพื่อฟังเสียงในสังคมออนไลน์ (Social Listening) และนำมาวิเคราะห์เพื่อเจาะตลาดของ ‘ชาไทย’ ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา (1-30 พฤศจิกายน 2566)

ที่น่าสนใจคือ จากการสำรวจข้อมูลโซเชียลมีเดียพบว่า ในกลุ่มประเทศ South East Asia มีการพูดถึง Thai Tea หรือ Thai Milk Tea ได้รับเอ็นเกจเมนต์ (แบบรวมยอดวิว) จำนวน 2.25 ล้านครั้ง โดยประเทศที่มีการพูดถึงชาไทยมากที่สุด คือ อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นการรีวิวเครื่องดื่มชาไทยตามสถานที่ต่างๆ ในรูปแบบคลิปวิดีโอสั้น และการสอนวิธีทำเครื่องดื่มชาไทยด้วยตัวเอง

นอกจากนี้ ผลจากการเก็บข้อมูลพบว่า คนไทยส่วนใหญ่นิยมเรียกชาไทยว่า ชาไทย มากที่สุด รองลงมาคือ ชาเย็น ชานม และชานมเย็น ตามลำดับ

ในตลาดเครื่องดื่ม หลายเจ้าได้ให้ความสนใจในการดึงชาไทยเข้ามาเป็นตัวชูโรง หรือตัวช่วยในการดึงดูดผู้ที่ชื่นชอบเครื่องดื่มชาไทยให้เข้ามาลองรสชาติใหม่ๆ โดยแบรนด์ที่ได้รับการกล่าวถึงสูงสุดในโซเชียลมีเดียในช่วงเดือนพฤศจิกายนคือ ชาตรามือ 14.6% รองลงมาคือ อินทนิล คอฟฟี่ และ Karun (การัน) ตามลำดับ 

ส่วนแบรนด์ที่มีเอ็นเกจเมนต์หรือการมีส่วนร่วมสูงสุดคือชาตรามือเช่นเดียวกัน โดยมีเอ็นเกจเมนต์สูงถึง 35.4% รองลงมาคือ อินทนิล คอฟฟี่ และทรู คอฟฟี่ ตามลำดับ

ดาต้าเซ็ตระบุว่า ชาตรามือนับว่ามีการต่อยอดธุรกิจ จากผู้จำหน่ายวัตถุดิบชาก้าวสู่ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชาของตัวเอง ในด้านของผลตอบรับของผู้บริโภค จากการดูแบรนด์ที่ได้รับเอ็นเกจเมนต์ พบว่าก็ยังคงเป็นชาตรามือที่ได้รับความสนใจ เพราะมีการโปรโมตทั้ง Drive-Thru ที่จังหวัดเชียงใหม่ และการทำไอศกรีมรสชาไทย 

ขณะเดียวกัน ตลาดชาไทยที่พบในโซเชียลมีเดียทำให้พบว่า วงการเครื่องดื่มอย่างชาไทยไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่การพัฒนารสชาติหรือบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะกับยุคสมัยเท่านั้น แต่ได้มีการสร้างสรรค์เมนูเพื่อเพิ่มความแปลกใหม่ และเพิ่มกลยุทธ์ดึงดูดลูกค้าให้กับธุรกิจของแต่ละผู้ประกอบการมากขึ้นด้วย