แนวโน้มหุ้นไทยสัปดาห์นี้ นักวิเคราะห์ประเมินดัชนี SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,715-1,760 จุด โดยตลาดจะให้ความสนใจเกี่ยวกับการเจรจาการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่จะเริ่มต้นในสัปดาห์นี้ รวมถึงทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯ ราคาน้ำมัน และ ครม. ชุดใหม่ที่คาดว่าจะประกาศในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้นักลงทุนยังตามเกาะติดหุ้นโรงไฟฟ้า หลังมีข่าวจะให้มีการแก้ไข PDP2018
ตัวแปรสำคัญของตลาดยังคงเป็นสำนักงานผู้แทนการค้า และกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดจะประชุมทางโทรศัพท์กับตัวแทนการค้าของจีน โดยล่าสุดสื่อรายงานว่า ฝ่ายจีนได้ยื่นเงื่อนไขให้สหรัฐฯ ยกเลิกภาษีที่เรียกเก็บจากสินค้านำเข้าของจีน ก่อนที่จะมีการทำข้อตกลงกัน
นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ KTBST มองว่า หากการเจรจามีแนวโน้มประสบความสำเร็จก็จะเป็นบวกต่อตลาดและราคาน้ำมันดิบ เพราะก่อนหน้านี้นักลงทุนกังวลทิศทางเศรษฐกิจว่าจะกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
ประเด็นที่กำลังร้อนและโยงมาจากสงครามการค้าคือการปรับดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่ตลาดยังให้น้ำหนักกับเรื่องนี้ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้กดดัน Fed ให้ลดดอกเบี้ยในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา
ดังนั้นตลาดจึงน่าจะจับตาดูสัญญาณการลดดอกเบี้ยจากรายงานประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของ Fed (FOMC) และการแถลงต่อคณะกรรมาธิการการเงินของประธาน Fed ซึ่ง 2 เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้
ด้านการเมืองก็ใกล้จะประกาศรายชื่อ ครม. โดยคาดว่าทันทีที่มีการประกาศอย่างเป็นทางการแล้ว รัฐมนตรีกระทรวงสำคัญๆ จะเร่งแถลงนโยบายเพื่อสานต่อรัฐบาลชุดก่อน ซึ่งนักวิเคราะห์ยังให้น้ำหนักการเมืองว่าเป็นบวกต่อตลาด
อีกข่าวที่นักลงทุนกำลังให้ความสนใจ คือหนังสือของสำนักตรวจการแผ่นดิน ที่ขอให้กระทรวงพลังงานแก้ไข PDP2018 ให้ EGAT มีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าเกิน 51% จนสะเทือนหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้ามาตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ภาพรวมสัปดาห์นี้ตลาดหุ้นจะอิงกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน (ซึ่งมีผลไปถึงทิศทางดอกเบี้ยของสหรัฐฯ) และทิศทางราคาหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า โดยนักวิเคราะห์ประเมินดัชนียังอยู่ในโหมดของการพักตัว แต่มีโอกาสกลับขึ้นไปแตะ 1,747 จุดในระหว่างสัปดาห์ คาดกระแสเงินทุนต่างชาติไหลเข้ายังหนุนตลาดหุ้นแต่อาจลดความร้อนแรงลง หากไม่มีข่าวบวกใหม่ๆ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- บริษัทหลักทรัพย์ KTBST
