บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (21 กันยายน) ช่วงเช้าดัชนีผันผวนพอสมควร โดยมีช่วงเวลาหนึ่งที่อยู่ๆ ดัชนีดิ่งตัวลงมาทำจุดต่ำสุดของวันที่ 1,591 จุด ลดลง 11.25 จุด ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว และมาปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,614.86 จุด เพิ่มขึ้น 11.80 จุด หรือ +0.74% มูลค่าการซื้อขาย 83,910.37 ล้านบาท
ณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ได้รับอิทธิพลจากตลาดหุ้นต่างประเทศเป็นส่วนมาก ประกอบด้วย ความกังวลเรื่องวิกฤตหนี้ Evergrande ที่เริ่มคลายลง สะท้อนจากราคาหุ้น China Evergrande ที่ราคาเริ่มนิ่ง ไม่ได้ปรับตัวลดลงมากเหมือนวันก่อนหน้า อีกทั้งตลาดส่วนใหญ่เชื่อว่ารัฐบาลจีนจะเข้ามาควบคุมความเสียหายในท้ายที่สุด
เกี่ยวเนื่องมาถึงเรื่องผลประชุม Fed ในวันที่ 21-22 กันยายน ที่ลดดีกรีความกังวลลงเนื่องจากกรณีของ Evergrande ซึ่งอาจทำให้มูลค่าสินทรัพย์ต่างๆ ปั่นป่วน ทำให้นักลงทุนเชื่อว่า Fed จะไม่เร่งส่งสัญญาณเรื่องการลด QE ในการประชุมรอบนี้ (รู้ผล 23 กันยายน เวลาประเทศไทย) เพราะการลด QE อาจไปเร่งให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Yield) ปรับสูงขึ้น และกระทบต่อผู้ถือพันธบัตรในที่สุด
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยในประเทศที่ส่งผลให้หุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันนี้ คือตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดรายวันต่ำกว่า 10,000 ราย ทำให้หุ้นที่เกี่ยวกับการเปิดประเทศได้รับอานิสงส์เชิงบวก
สำหรับกรณีล่าสุดที่ ครม. ไฟเขียวโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 และทัวร์เที่ยวไทย มองว่าสนับสนุนดัชนีไม่มาก และกลุ่มท่องเที่ยวก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่การอนุมัติโครงการดังกล่าว ทำให้ภาพการเปิดประเทศชัดขึ้น และทำให้นักลงทุนมั่นใจเพิ่มขึ้นได้
ส่วนการเปิดเฮียริ่งการปรับเกณฑ์คำนวณดัชนี ทำให้ในช่วงเช้ามีแรงขายหุ้น DELTA ออกมาค่อนข้างมาก กดดันให้ดัชนีโดยรวมปรับตัวลดลง และหลุดระดับ 1,600 จุดไปช่วงหนึ่ง แต่ก็มีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงานและธนาคารเข้ามาดันให้ดัชนีกลับขึ้นไปในแดนบวกได้
โดยกลุ่มพลังงานได้รับอานิสงส์จากธีม Global Play ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคาร ได้รับปัจจัยบวกจากการขยายเพดานหนี้สาธารณะเป็น 70% ของ GDP ทำให้มีความคาดหวังว่ารัฐบาลอาจจะเลือกการกู้ธนาคารในประเทศเป็นออปชันหลักในการจัดหาเงินทุนมากระตุ้นเศรษฐกิจ
สำหรับแนวโน้มหุ้นไทยวันที่ 22 กันยายน ประเมินว่าหุ้นไทยจะผันผวนน้อยลง โดยตลาดยังติดตามการชำระอัตราดอกเบี้ยหุ้นกู้ของ Evergrande ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 23 และ 27 กันยายน ว่าจะมีทางออกอย่างไร