หุ้นไทยวันนี้ (9 กุมภาพันธ์) ดัชนีปิดการซื้อขายช่วงเช้าที่ระดับ 1,704.42 จุด เพิ่มขึ้น 20.19 จุด หรือ 1.20% มูลค่าการซื้อขาย 67,154.89 ล้านบาท ส่วนดัชนี SET50 ปิดการซื้อขายช่วงเช้าที่ 1,028.39 จุด เพิ่มขึ้น 16.89 จุด หรือ 1.67%
ณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นไทยเช้านี้ได้รับอิทธิพลจากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง ผลักดันให้ดัชนีปรับขึ้นเกินระดับ 1,700 จุดไปแล้ว โดยแรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติส่วนมากเข้าซื้อหุ้นในกลุ่มแบงก์และค้าปลีก ซึ่งก่อนหน้านี้ราคาหุ้นยัง Laggard จากความกังวลเรื่องผลกระทบของโควิด
นอกจากนี้ต่างชาติยังเข้าซื้อหุ้นไทยเนื่องจากมองเห็นสัญญาณฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยอีกด้วย โดยเฉพาะภาคการผลิตที่เริ่มฟื้นตัวชัดเจน อีกทั้งในช่วงนี้เป็นฤดูปันผล ซึ่งหุ้นขนาดใหญ่ของไทยให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่จูงใจประมาณ 2-3%
“อีกปัจจัยที่ทำให้เงินไหลเข้าหุ้นไทยต่อเนื่องคือแนวโน้มค่าเงินบาทที่แข็งค่า ทำให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนเพื่อหวังรับกำไรจากค่าเงินด้วย” ณัฐพลกล่าว
สำหรับแนวโน้มช่วงบ่าย ประเมินว่ากระแส Fund Flow ยังสนับสนุนให้ดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อได้ แต่ Upside เริ่มจำกัด โดยฝ่ายวิจัยหยวนต้าประเมินแนวต้านรอบนี้ที่ 1,710 จุด โดยปัจจัยที่ต้องติดตามต่อจากนี้คือทิศทางเงินเฟ้อสหรัฐฯ รายงานการประชุมของ Fed ประจำเดือนกุมภาพันธ์ และการประชุมของ Fed ประจำเดือนมีนาคม ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงกลางเดือน
“จากปัจจัยเงินเฟ้อและการดำเนินนโยบาของ Fed ที่จะส่งแรงกดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง ประเมินว่าสุดท้ายแล้วนักลงทุนต่างชาติก็ต้องปรับพอร์ตเป็นระยะ แต่จากปัจจัยบวกในประเทศ เชื่อว่าจะดึงกระแส Fund Flow ให้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง”
ทั้งนี้ข้อมูลการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติในตลาดหุ้นเอเชีย ในเดือนธันวาคม 2564 และเดือนมกราคม 2565 พบว่าเงินทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นไทยสูงกว่าประเทศอื่นในภูมิภาค ดังนี้
ตลาดหุ้นไทย นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเดือนธันวาคม 2564 จำนวน 695 ล้านบาท และซื้อสุทธิในเดือนมกราคม 2565 จำนวน 432 ล้านบาท
ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ซื้อสุทธิ 100 ล้านบาท และซื้อสุทธิ 425 ล้านบาท
ตลาดหุ้นมาเลเซีย ขายสุทธิ 270 ล้านบาท และซื้อสุทธิ 80 ล้านบาท
ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ซื้อสุทธิ 1,723 ล้านบาท และขายสุทธิ 39 ล้านบาท
ตลาดหุ้นเวียดนาม ขายสุทธิ 128 ล้านบาท และขายสุทธิ 128 ล้านบาท
ตลาดหุ้นไต้หวัน ซื้อสุทธิ 2,777 ล้านบาท และขายสุทธิ 2,502 ล้านบาท
ตลาดหุ้นอินเดีย ขายสุทธิ 3,591 ล้านบาท และขายสุทธิ 4,545 ล้านบาท
ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ซื้อสุทธิ 2,844 ล้านบาท และขายสุทธิ 3,796 ล้านบาท
ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า Fund Flow ที่มีแนวโน้มไหลเข้าหลังจากวานนี้ Net Buy ทั้งตลาดหุ้น 6.67 พันล้านบาท, ตลาดพันธบัตร 1.63 หมื่นล้านบาท และเปิด Long ใน SET50 Futures 19,000 สัญญา ขณะที่หากประเมินจากหุ้นกลุ่มที่ขึ้นวันนี้ที่มีน้ำหนักมาจากหุ้น Market Cap ขนาดใหญ่เป็นหลัก สะท้อนจาก SET50 Index เพิ่มขึ้น 1.67% สวนทางหุ้นในดัชนี sSET ที่ปรับลง 0.11% น่าจะบ่งชี้แรงซื้อต่างชาติที่ยังหนุนเข้าตลาดหุ้นบ้านเราต่อเนื่อง และช่วยหนุนให้ SET Index บ่ายนี้ยืนเหนือ 1,700 จุดได้ไม่ยาก
ส่วนปัจจัยแวดล้อมส่วนใหญ่ยังเป็นการติดตามพัฒนาการของเหตุการณ์ต่างๆ โดยในประเทศบ่ายนี้ให้น้ำหนักไปที่การประชุม กนง. และปัจจัยต่างประเทศคือการรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ เดือนมกราคม ซึ่งคาดว่าจะขยายตัว 7.3%
กลยุทธ์ลงทุน แนะนำหุ้นใหญ่พื้นฐานแกร่ง ADVANC, MAKRO และ KBANK ส่วนหุ้นเทคนิคเลือก MAKRO และ BAFS
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP