ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงถ้วนหน้าเนื่องจากนักลงทุนกังวลต่อสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิดสายพันธ์ุแอฟริกาใต้ ที่อาจจะแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและวัคซีนล่าสุดไม่สามารถป้องกันได้ ขณะที่เศรษฐกิจโลกก็รับแรงกดดันเพิ่มจากกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจจะเริ่มต้นลดวงเงิน QE เร็วกว่าคาด ในมูลค่าที่มากกว่าแผนเดิม นอกจากนี้ ฝั่งเอเชียเองก็ยังได้รับแรงกดดันจากการเข้มกฎระเบียบของรัฐจีนอีกครั้ง จากล่าสุดที่ทางการจีนสั่งหุ้น Didi ให้เพิกถอนออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ
วันนี้ (26 พฤศจิกายน) ดัชนีหุ้นไทยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,610.61 จุด ลดลง 37.85 จุด หรือ -2.30% ซึ่งใกล้เคียงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ปรับตัวลดลงประมาณ 2-3% ขณะที่หุ้นยุโรปปรับลดลง 3% และหุ้นสหรัฐฯ (Dow Jones Futures) ปรับตัวลดลงราว 1%
ประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการ บลจ.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด กล่าวว่า หุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นในภูมิภาค สาเหตุหลักมาจากความกังวลเรื่องโควิดกลายพันธุ์จากแอฟริกาใต้ ซึ่งปัจจัยนี้ส่งผลกดดันตลาดหุ้นทั่วโลกด้วยเช่นกัน
ขณะเดียวกันยังมีความกังวลเรื่อง Fed จะปรับลด QE เร็วขึ้น โดยมีมุมมองจากโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า Fed มีแนวโน้มที่จะเร่งอัตราการลดวงเงินซื้อพันธบัตรในมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ขึ้นเป็นสองเท่า ที่ระดับ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน นับตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2565 เป็นต้นไป และจะยุติมาตรการดังกล่าวภายในกลางเดือนมีนาคม 2565
โดยทีมนักวิเคราะห์โกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า การเปิดกว้างที่เพิ่มขึ้นเพื่อเร่งอัตราการปรับลดมาตรการ QE นั้น มีแนวโน้มที่จะสะท้อนถึงเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเกินคาดในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ Fed มีความมั่นใจมากขึ้นว่าอัตราการปรับลดมาตรการ QE ที่เร็วขึ้นนั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน
ขณะเดียวกันยังมีความกังวลเรื่อง Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด โดยโกลด์แมน แซคส์ ประเมินว่า Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า คือเดือนมิถุนายน กันยายน และธันวาคม ทำให้ตลาดมีความกังวลมากขึ้น
ณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า หุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน และปรับลดลงรุนแรงมาก สาเหตุหลักมาจากความกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่ Nu (B.1.1.529) ที่มีแนวโน้มแพร่ระบาดง่ายกว่าสายพันธุ์เดลตา และอาจทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนลดน้อยลงได้ โดยปัจจุบันพบการระบาดในประเทศแถบแอฟริกา ได้แก่ แอฟริกาใต้ บอตสวานา และฮ่องกง ที่มีผู้ติดเชื้อจากแอฟริกาใต้เดินทางไป
นอกจากนี้ ตลาดยังกังวลว่า Fed จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด รวมถึงตลาดตอบรับ Regulatory Risk เพิ่ม เนื่องจากรัฐบาลจีนได้เรียกร้องให้ผู้บริหารของบริษัท ตีตี โกลบอล อิงค์ (Didi Global Inc) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถรับส่งสัญชาติจีน เพิกถอนหุ้นออกจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เนื่องจากทางการจีนกังวลเกี่ยวกับประเด็นความมั่นคงและการรั่วไหลของข้อมูลที่อ่อนไหว ทั้งนี้ ข้อเรียกร้องดังกล่าวของทางการจีนยังครอบคลุมถึงการอนุญาตให้ตีตี โกลบอล อิงค์ เข้าจดทะเบียนซื้อขายหุ้นในตลาดฮ่องกงหลังจากถอนตัวออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ
“ความกังวลการระบาดโควิดสายพันธุ์ใหม่กลับมาอีกครั้ง ซึ่งตลาดจะติดตามประเด็นเรื่องนี้ต่อในสุดสัปดาห์นี้ว่า WHO จะมีการแถลงการณ์อย่างไร แต่ถ้าประเมินดูต้นตอการระบาดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ที่มาจากแอฟริกาส่วนใหญ่จะเป็นเชื้อที่มีความรุนแรงสูง ซึ่งก็ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป”
สำหรับแนวโน้มการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า ช่วงต้นสัปดาห์มีโอกาสที่ดัชนีจะปรับตัวลดลงมาอีกเพราะตลาดยังคงกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด โดยประเมินแนวรับที่ระดับ 1,580-1,600 จุด
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP