หุ้นไทยวิ่งกระฉูด 30 จุด กองทุนไทยและนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 5 พันล้าน ดันกลุ่มหุ้นบิ๊กแคปทั้งพลังงาน แบงก์ และหุ้นเปิดเมืองบวกยกแผง นักลงทุนแห่เก็งกำไรข่าวดีจีนเตรียมปลดล็อกดาวน์ช่วยฟื้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ขณะที่นักวิเคราะห์มองเป็นการรีบาวด์ช่วงสั้นหลังจากลงไปลึก แนะเทรดดิ้งช่วงสั้น เหตุปัจจัยลบต่างประเทศยังท่วมตลาด
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยวันนี้ (17 พฤษภาคม) บวกต่อเนื่องตลอดวัน โดยปิดการซื้อขายที่ 1,614.49 จุด เพิ่มขึ้น 30.11 จุด หรือ +1.90% มูลค่าการซื้อขายรวมกว่า 85,222.10 ล้านบาท
แรงซื้อหนาแน่นในหุ้นบิ๊กแคป เช่น กลุ่มพลังงาน กลุ่มธนาคาร หุ้นในธีมเปิดเมือง โดย 5 อันดับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดมีดังนี้
- PTTEP ปิดที่ 157.50 บาท เพิ่มขึ้น 6 บาท หรือ 3.96% มูลค่าการซื้อขาย 3,258.81 ล้านบาท
- JMT ปิดที่ 76 บาท เพิ่มขึ้น 8 บาท หรือ 11.76% มูลค่าการซื้อขาย 2,927.66 ล้านบาท
- PTT ปิดที่ 37 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 2.07% มูลค่าการซื้อขาย 2,883.34 ล้านบาท
- KBANK ปิดที่ 144.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท หรือ 1.76% มูลค่าการซื้อขาย 2,263.01 ล้านบาท
- IVL ปิดที่ 48.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท หรือ 4.84% มูลค่าการซื้อขาย 2,158.22 ล้านบาท
ทั้งนี้ สถาบันในประเทศ ซื้อสุทธิ 2,668.99 ล้านบาท
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 794.94 ล้านบาท
นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิ 3,204.89 ล้านบาท
นักลงทุนในประเทศ ขายสุทธิ 5,078.94 ล้านบาท
เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส (ASP) กล่าวว่า หุ้นไทยวันนี้รีบาวด์ช่วงสั้น หลังจากที่สัปดาห์ที่แล้วปรับตัวลดลงรับข่าวปัจจัยลบจากต่างประเทศ
สำหรับปัจจัยบวกที่ทำให้หุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นวันนี้มาจากการที่จีนเตรียมผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดในเซี่ยงไฮ้ การรายงาน GDP ไทยไตรมาส 1/65 ที่ขยายตัว 2.2%YoY ซึ่งมากกว่าตลาดคาด การส่งออกของไทยขยายตัว 10.2% และกำไรบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 1/65 ที่กำลังทยอยประกาศออกมาและมีแนวโน้มเป็นไปตามที่คาดการณ์ที่ 2.7 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังเต็มไปด้วยปัจจัยลบ โดยเฉพาะจากต่างประเทศที่ไม่ได้หายไป ทั้งความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอจากเงินเฟ้อ ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-NATO ที่ต้องติดตามต่อหลังจากที่ฟินแลนด์และสวีเดนสมัครเข้าร่วม NATO ซึ่งหากการใช้กำลังทางทหารขยายวงออกนอกยูเครนจะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อสินทรัพย์เสี่ยงได้อีกระลอก โดยรวมอาจทำให้พื้นที่การฟื้นตัวยังเป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของฟินแลนด์และสวีเดนชี้นำว่าสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนและการคว่ำบาตรรัสเซียจะยังคงยืดเยื้อต่อไป ส่งผลต่อเงินเฟ้อโดยตรง ซึ่งจะมีผลต่อการกำหนดนโยบายการเงินของสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ในเดือนมิถุนายน Fed ก็จะเริ่มลดงบดุล ทำให้เม็ดเงินจะถูกดึงออกจากระบบและส่งผลต่อความเคลื่อนไหวต่อสินทรัพย์เสี่ยงในที่สุด
“เรายังมองเป็นเรื่องการรีบาวด์มากกว่า ขาลงของตลาดหุ้นยังไม่จบเพราะปัจจัยแวดล้อมเชิงลบยังคงอยู่ไม่ได้หายไปไหน ทั้งนี้ แนะนำนักลงทุนที่เน้นเก็งกำไรควรมีจุดขายทำกำไรและตัดขาดทุนที่ชัดเจน ส่วนนักลงทุนที่เน้นการลงทุนระยะยาวแนะนำให้ทยอยสะสมเมื่อราคาย่อตัว” เทิดศักดิ์กล่าว
สำหรับแนวโน้มวันพรุ่งนี้ (18 พฤษภาคม) คาดว่าดัชนีน่าจะย่อตัวหลังจากที่ปรับเพิ่มขึ้นมากในวันนี้ โดยมองแนวรับที่ 1,600 จุด และแนวต้านที่ 1,630 จุด
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP