วันนี้ (12 มีนาคม) ตลาดหุ้นไทย หรือ SET Index ร่วงลงกว่า 109.84 จุดสู่ระดับ 1,140.05 จุด ทำให้ทั้งนักลงทุนจับตามองว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จะใช้เครื่องมือ Circuit Breaker หรือการหยุดทำการซื้อขายโดยอัตโนมัติเป็นการชั่วคราวหรือไม่ ล่าสุด SET ออกแถลงข่าวรับภาวะหุ้นตกรุนแรงดังนี้
ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) กล่าวว่า เมื่อดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลดลงเกือบ 6% ส่งผลให้ตลาดหุ้นในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไทยลดลงตาม โดยล่าสุดดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ปรับลดลงกว่า 8.8% จากการเปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ สาเหตุหลักเพราะปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นโลกและผลกระทบจากโควิด-19
ทั้งนี้ดัชนีหุ้นไทยลดลงราว 20-25% จากช่วงต้นปีนี้ ถือว่าลดลงมากกว่าดัชนีหุ้นทั่วโลกที่ปรับลดลงเฉลี่ย 10-15% ทาง SET มองว่าตลาดมีความกังวลสูงทำให้ผลกระทบรุนแรงกว่าที่ควรเป็น อย่างไรก็ตาม การใช้ Circuit Breaker ทาง SET ตั้งเงื่อนไขไว้เมื่อดัชนีหุ้นลดลงอย่างรวดเร็วที่ 10% ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ราว 8.8% จึงยังไม่มีการใช้ Circuit Breaker
“เราตั้ง Circuit Breaker ที่ 10% เพราะเรามองว่ามีช่วยที่เกิดขึ้นน้อยมาก และมีความรุนแรงสูง ซึ่งเราอาจต้องพิจารณาต่อว่าระดับ 10% ยังเหมาะสมไหม ส่วนตอนนี้นักลงทุนบางส่วนมี Pain Point แต่ช่วงนี้ถือเป็นโอกาสนักลงทุนที่จะลงทุนได้ เพราะราคาหุ้นไทยเทียบกับก่อนหน้านี้ถือว่าน่าสนใจเหมาะกับการลงทุนระยะยาว เพราะตอนนี้มีแต่ข่าวลบมาก แต่ปัจจัยเดิมไม่ได้เปลี่ยนไป เมื่อตลาดหุ้นไทยลดลงเยอะมีโอกาสที่จะกลับมาได้สูงเช่นกัน”
ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบที่ลดลง แม้จะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (8 มีนาคม) แต่ยังมีข้อดีที่ช่วยให้ต้นทุนธุรกิจลดลง แต่นักลงทุนยังไม่เห็นข้อดีชัด เพราะยังมีปัญหาด้านอื่นๆ อยู่ อย่างไรก็ตาม กรณีที่นักลงทุนสถาบันระยะนี้มีการเทขายหุ้นไทยคาดว่าเกิดจากการปรับพอร์ตลงทุน หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลง ดัชนีกลับมาเพิ่มขึ้น นักลงทุนสถาบันจะกลับมาซื้อเพิ่มขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้หากดูสัดส่วนนักลงทุนต่างชาติอยู่ที่ 28.96% ลดลงราว 1-2% จากเดิมที่มีสัดส่วน 29-30% ถือว่าได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม ทาง ตลท. ออกมาตรการช่วยเหลือบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ ผ่านการลดค่าธรรมเนียมด้านต่างๆ โดยจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของบริษัทต่างๆ ราว 500 ล้านบาท ผ่าน 3 มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการตลาดทุนเพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้แก่
1.มาตรการช่วยเหลือบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์แบ่งเป็นการลดค่าธรรมเนียมนายทะเบียนรายปี 20% ในปี 2563 ทั้ง บจ., บล. และ บลจ. เช่น การลดค่าธรรมเนียมรายปีแก่บริษัทจดทะเบียนที่เข้าร่วมกิจกรรม Opp Day ในปี 2563-2564 ตามเงื่อนไขที่กำหนด
2.มาตรการช่วยเหลือบริษัทสมาชิก
2.1 มาตรการลดต้นทุนการทำธุรกรรมใน TFEX ลดค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรม เช่น การใช้บริการระบบสตรีมมิง
2.2 มาตรการสนับสนุนบริษัทผู้ออก DW
2.3 มาตรการสนับสนุนสมาชิกในการให้บริการผู้ลงทุนบุคคล
3.มาตรการช่วยเหลือสมาชิกผู้ฝากหลักทรัพย์ ลดค่าธรรมเนียมรักษาหลักทรัพย์ 20% ตั้งแต่ 1 เมษายน ถึง 31 ธันวาคม 2563 แก่ บล. และคัสโตเดียน