ตลาดหุ้นไทยผันผวนหนัก ปิดตลาดที่ 1,639.54 จุด ลดลงถึง 40.14 จุด หรือ 2.39% มูลค่าการซื้อขายเกือบ 8.45 หมื่นล้านบาท สอดคล้องกับตลาดหุ้นในภูมิภาค ดัชนี HSI ตลาดฮ่องกง ลดลง 841.34 จุด หรือ 2.78% ดัชนี SHSZ300 ตลาดจีนลดลง 114.08 จุด หรือ 3.78% และดัชนี STI ตลาดสิงคโปร์ลดลง 22.69 จุด หรือ 0.68%
เมื่อตรวจสอบการซื้อขายตามกลุ่มนักลงทุนวันนี้ (19 มิ.ย.) พบว่า เป็นการเทขายจากกลุ่มต่างๆ ทั้งสถาบันในประเทศขายออกสุทธิ 1.6 พันล้านบาท โบรกเกอร์ขายออกกว่า 4.8 พันล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายออก 2.6 พันล้านบาท ส่วนนักลงทุนรายย่อยซื้อสุทธิเพิ่มกว่า 9 พันล้านบาท
จักรกริช เจริญเมธาชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) หรือ KTBST ให้ความเห็นกรณีหุ้นร่วงหนักในวันนี้ว่า เกิดจากสาเหตุสำคัญ 3 ประการคือ
1. การเปลี่ยนแปลงของผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ล่าสุดอยู่ที่ 2.879% ลดลง 1.62% ซึ่งสะท้อนความกังวลต่อเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา
2. ความกังวลต่อสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขู่ยกระดับกำแพงภาษีจีนเพิ่มมูลค่าถึง 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้นักลงทุนทั่วโลกกังวลต่อความไม่แน่นอนดังกล่าว
3. การอ่อนค่าของค่าเงินบาท ล่าสุดวันนี้อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 32.86 บาทต่อเหรียญสหรัฐ เนื่องจากเงินทุนไหลออกจากทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีคำชี้แจงจากทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแต่อย่างใด