วันนี้ (7 พฤษภาคม) ที่อาคารรัฐสภา พิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ชี้แจงกระแสข่าวว่า วันพรุ่งนี้ (8 พฤษภาคม) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เตรียมเรียก สว. 60 คน เข้ารับทราบข้อกล่าวหาความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) การได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 สืบเนื่องจากคดีฮั้ว สว. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ร่วมกับ กกต. ดำเนินการ
พิสิษฐ์ระบุว่า จากกระแสข่าวดังกล่าว ส่วนตัวไม่ทราบจริงๆ และไม่รู้ว่าเอาข่าวหรือตัวเลขมาจากไหน รวมถึงไม่มีหนังสือเรียกจาก กกต. ส่งมาในกลุ่มของ สว. แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าที่ผ่านมาเคยมีการเรียกสอบจาก กกต. เป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นหน้าที่ของ กกต. ตาม พ.ร.ป.การได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561
พิสิษฐ์ยังกล่าวด้วยว่า ส่วนตัวไม่ได้มีความกังวลกับเรื่องดังกล่าว เพราะยังไม่ได้ทราบชุดข้อมูลจริงจากแหล่งข้อมูลจริงๆ เพียงแต่เห็นจากในสื่อที่เขียนขึ้นมา 60 ท่าน ซึ่งไม่รู้ว่าเอาตัวเลขมาจากไหน และมีใครบ้างก็ไม่ทราบอีก จึงไม่รู้จะกังวลไปเพื่ออะไร
ส่วนกระแสข่าวดังกล่าวมีมูลความจริงหรือไม่ พิสิษฐ์กล่าวว่า ตอบไม่ได้เลย ก็รอดูพรุ่งนี้เหมือนกับสื่อมวลชน ความจริงก็อยากให้ถึงวันพรุ่งนี้เร็วๆ เหมือนกัน เพราะอยากทราบด้วย แต่โดยส่วนตัวไม่ทราบ พร้อมย้ำว่า แทบไม่ค่อยได้ตามข่าวเรื่องนี้แล้ว เพราะข่าวก็ลงวนไปมา ซ้ำซากเหมือนเดิม ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากที่ติดตามข่าวในช่วงแรกที่ระบุว่า สว. มี 138 คน
สำหรับการเรียกสอบโดย กกต. ที่ผ่านมานั้น พิสิษฐ์เปิดเผยว่า เป็นการเรียกไปสอบถามเกี่ยวกับเรื่องเอกสาร สว.3 ว่าเขียนอะไรลงไปบ้างหรือไม่ ซึ่ง สว. ทุกท่านก็ได้ไปให้ปากคำกับ กกต. ทุกท่าน รวมถึงสอบถามเกี่ยวกับการฮั้ว เช่น มีการไปประชุมกันหรือไม่ ซึ่งมองว่าเป็นการสอบถามตามปกติ ไม่ใช่เรื่องใหม่
ส่วนในกระแสข่าวดังกล่าวระบุไว้ด้วยว่า สว. ทั้ง 138 คน ได้มีการพูดคุยกับนายใหญ่จนเคลียร์แล้วนั้น พิสิษฐ์หัวเราะ ก่อนตอบว่า “ต้องเรียนกับสื่อมวลชนตรงนี้เลย ผมก็ไม่ทราบว่านายใหญ่คือใคร ตัวผมเองก็รู้จัก สว. ทุกคนในวันที่มาเป็น สว. แล้ว วันที่เลือกจริงๆ ผมก็ไม่รู้จักใครเลย ทุกคนมีอิสระมาก ไม่มีการรู้จักกันมาก่อน”
พิสิษฐ์ยืนยันด้วยว่า กลุ่ม สว. ไม่มีผู้ใหญ่มาหนุนหลัง ขอยืนยันกับสื่อมวลชนตรงนี้ เพราะมีใครมาสนับสนุนไม่ได้อยู่แล้ว ตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า สว. ต้องไม่สังกัดพรรคการเมืองหรือกลุ่มบุคคลใดก็ตาม ดังนั้นพวกเรา สว. 200 ท่าน อิสระทุกคน
ส่วนหากการเรียกตัวของ กกต. วันพรุ่งนี้ไม่เกิดจริง แต่อาจมีการเรียกอีกในอนาคต พิสิษฐ์กล่าวว่า หากเป็น กกต. พร้อมให้ความร่วมมือแน่นอน และหากเป็น DSI ที่มอบอำนาจให้ กกต. เป็นผู้สั่ง ก็ต้องไป เรายึดตามกฎหมายเป็นหลัก รัฐธรรมนูญว่าอย่างไรก็ว่าตามนั้น อย่างไรทุกอย่างต้องผ่าน กกต. เป็นหลัก เรื่องนี้สำคัญมาก
สำหรับกรณี อลงกต วรกี สว. กล่าวว่า สว. มีศักดิ์สูงกว่า DSI นั้น พิสิษฐ์ชี้แจงว่า คำว่าศักดิ์สูงไม่มีจริง แต่ตนเองคิดว่า อลงกตเป็นคนคิดเร็ว ทำเร็ว และพูดเร็ว เร็วจนทำให้สื่อสารผิดพลาด แต่คำว่าศักดิ์สูงหรือไม่ เพราะพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การสอบสวนคดีพิเศษ คือ พ.ร.บ. แต่กฎหมายเกี่ยวกับการเลือก สว. คือ พ.ร.ป.
“ตามหลักนิติศาสตร์ พ.ร.ป. มีศักดิ์สูงกว่า พ.ร.บ. ทั่วไป แค่นั้นเอง แต่ส่วนตัวคิดว่า ท่านอลงกตน่าจะคิดเร็วทำเร็วเกินไป” พิสิษฐ์กล่าว
