วันนี้ (23 กุมภาพันธ์) เบสท์-ทวีชัย วงศ์ไพโรจน์กุล รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การรับรองเพศ คำนำหน้านาม และการคุ้มครองบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ ที่ สส. พรรคก้าวไกล เสนอ ซึ่งถูกสภาตีตกเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
เบสท์ ทวีชัย กล่าวว่า ต่อให้หลายพรรคการเมืองสนับสนุน พ.ร.บ.รับรองเพศสภาพ แต่ก็ย้อนแย้งกับการตีตกในครั้งนี้ โดยเห็นว่าสภาควรรับหลักการร่างดังกล่าวไปก่อน เพราะอย่างน้อยยังสามารถพัฒนากฎหมายต่อได้ ไม่จำเป็นต้องใช้ภาคประชาสังคมหรือประชาชนเป็นตัวประกัน สุดท้ายสภาและกรรมาธิการต้องทำงานกับทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม เพื่อให้ พ.ร.บ.รับรองเพศสภาพ เกิดขึ้นได้จริง
“พรรคไทยสร้างไทยให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมทางเพศไม่แพ้กับประเด็นอื่นๆ โดย พ.ร.บ.รับรองเพศสภาพ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่พรรคไทยสร้างไทยพร้อมผลักดันอย่างเต็มที่ โดยคณะทำงานยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะทำงานร่วมกับกรรมาธิการฯ ภาคประชาสังคม และผู้แทนภาคประชาชน เพื่อพัฒนาร่างกฎหมายนี้ร่วมกัน” เบสท์ ทวีชัย ระบุ
ส่วนกรณีที่ 3 สมาชิกผู้แทนราษฎรที่โหวต ‘ไม่เห็นด้วย’ ถือเป็นการตระบัดสัตย์ต่อประชาชนที่เคยให้สัญญาไว้ว่าจะอยู่เคียงข้างประชาชน การลงมติแบบนี้จึงเป็นการหักหลังประชาชนอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งไม่สามารถยอมรับและให้อภัยไม่ได้
ทั้งนี้ ในการอภิปรายสภาที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) รายหนึ่งได้อภิปรายไว้ว่า คำนำหน้านามจะก่อให้เกิดความยากในการติดต่อหน่วยงานราชการ และการใช้งบประมาณในการเปลี่ยนข้อมูลที่ก่อให้เกิดความสับสนและใช้งบประมาณมากในการเปลี่ยนข้อมูล พร้อมย้ำว่า ‘ไม่ว่าจะมีคำนำหน้านามแบบไหน ควรภูมิใจในความเป็นตัวเอง’ รวมถึงร้องเพลง กะเทยประท้วง ของ ปอยฝ้าย มาลัยพร ระหว่างการอภิปราย ซึ่งเป็นการนำอัตลักษณ์ของคนเพศหลากหลายมาล้อเลียนในสภา เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมและขาดการตระหนักรู้อย่างมาก
เบสท์ ทวีชัย กล่าวทิ้งท้ายว่า การที่ความเท่าเทียมทางเพศจะเกิดขึ้นได้ในประเทศไทย นอกจากกฎหมายสมรสเท่าเทียมแล้ว พ.ร.บ.รับรองเพศสภาพ จะเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญใหญ่ ที่จะทำให้คนเพศหลากหลายในสังคมไทยได้สิทธิอย่างเท่าเทียม และประเทศไทยจะได้เป็นประเทศแห่งความเท่าเทียมอย่างชัดถ้อยชัดคำ รวมถึงพรรคไทยสร้างไทยจะยืนหยัดทำงานเพื่อความเท่าเทียมในทุกมิติ เพื่อประชาชนทุกคน
