วันนี้ (22 เมษายน) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยแกนนำพรรคไทยสร้างไทย เชิญชวนประชาชนลงชื่อฟ้องภาครัฐ ในความผิดฐานสร้างความเสียหายจากการดำเนินนโยบายที่ส่อไปในทางเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชน จากกรณีการทำสัญญาให้เอกชนสร้างโรงไฟฟ้าเกินความจำเป็นถึงเกือบ 60% ทำให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟสูงเกินความเป็นจริงทั้งที่เอกชนเจ้าของโรงไฟฟ้าไม่ต้องผลิตไฟแม้แต่ 1 เมกะวัตต์
โดยสัญญาระหว่างรัฐกับเอกชนเจ้าของโรงไฟฟ้าน่าจะส่อไปในทางเอื้อผลประโยชน์ให้เอกชน เพราะความต้องการใช้ไฟฟ้าจริงอยู่ที่ 33,000 เมกะวัตต์ แต่กลับอนุมัติให้สร้างโรงไฟฟ้าเพื่อผลิตไฟฟ้าสูงถึง 54,000 เมกะวัตต์ เกินความจำเป็นเกือบ 60% ทำให้คนไทยต้องจ่ายค่าไฟส่วนเกิน 2.6 หมื่นล้านบาทต่อปี
ดังนั้นพรรคไทยสร้างไทย ขอทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์ของคนไทยที่ถูกเอาเปรียบ โดยขอเชิญชวนประชาชนร่วมลงชื่อฟ้องผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อให้พิจารณาวินิจฉัยว่าเป็นการกระทำทุจริตหรือไม่ และเป็นสาเหตุที่ทำให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้จริงให้เอกชน 0.7 บาทต่อหน่วย โดยที่เอกชนไม่ได้ผลิตไฟฟ้าแม้แต่หน่วยเดียว
อนึ่ง ถ้าพรรคไทยสร้างไทยได้เป็นรัฐบาล เรามีแนวทางปรับลดค่าไฟฟ้าให้เป็นธรรม ไม่เกิน 3.50 บาทต่อหน่วย ด้วย 3 ขั้นตอนดังนี้
- ปรับค่า Ft ลดค่าพร้อมจ่าย (AP) 0.70 บาทต่อหน่วย และลดค่าประกันความร้อน (EP) 0.30 บาทต่อหน่วยทันที จะสามารถลดค่าไฟฟ้า 1 บาทต่อหน่วย และจะเปลี่ยนนโยบายการจัดสรรก๊าซ LNG เพื่อให้มาใช้ผลิตไฟฟ้าให้ประชาชนก่อน เพื่อลดต้นทุนค่าไฟ
- เจรจากับเอกชนที่รับสัญญาโรงไฟฟ้าเก่าใกล้ปลดระวาง ให้ดำเนินการปลดระวางเร็วขึ้น โรงไฟฟ้าใหม่ที่ยังไม่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ หรือ COD ให้ชะลอเวลา COD ออกไปก่อน ส่วนที่รับสัญญาไปแล้วแต่ยังไม่สร้างให้ชะลอการสร้างออกไป และที่สำคัญต้องหยุดการให้สัมปทานโรงไฟฟ้าใหม่กับเอกชนรายใหญ่
เพิ่มสัดส่วนการรับซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ 30-40% เช่น การรับซื้อไฟฟ้าจาก สปป.ลาว ในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) เพราะราคาถูกเพียง 2.89 บาทต่อหน่วย สามารถใช้ได้ถึงกรุงเทพฯ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องไม่ใช่ไฟฟ้าที่มาจากเขื่อนกั้นแม่น้ำโขง
- สนับสนุนให้เกิดโรงไฟฟ้าชุมชนอย่างจริงจัง เป็นพลังงานสะอาด เช่น แสงแดด, ลม, ขยะ อย่างเต็มที่ บริหารจัดการอย่างโปร่งใส รวมถึงสนับสนุนการติดแผงโซลาร์เซลล์ให้บ้านประชาชนโดยรัฐอุดหนุน ทำให้ประชาชนได้ใช้ไฟฟ้าฟรีบางส่วน ลดค่าใช้จ่าย เพราะทุกวันนี้เป็นการจัดสรรทรัพยากรแบบคอร์รัปชันเชิงนโยบายแบบบูรณาการให้นายทุนทั้งสิ้น บนความทุกข์ยากและยากจนของประชาชน
ทั้งนี้ พรรคไทยสร้างไทยได้ชวนประชาชนร่วมลงชื่อฟ้องภาครัฐใน 3 ส่วนคือ
- สร้างความเสียหายจากการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาด ด้วยการให้เอกชนทำสัญญาสัมปทานผลิตไฟฟ้ามากเกินความจำเป็นเป็นจำนวนมาก เป็นเหตุให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟฟ้าแพงกว่าที่ควรเป็น
- การจัดสรรก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยซึ่งมีต้นทุนถูกให้เอกชนไปใช้ในการผลิตสินค้าอื่น ส่งผลให้ต้องนำเข้า LNG จากต่างประเทศทดแทน ทำให้ต้นทุนการผลิตแพงกว่าถึง 5 เท่า อันเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ค่าไฟแพง ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 43 และมาตรา 57
- ขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองในส่วนข้อตกลงกับเอกชนในการสร้างโรงไฟฟ้าที่ยังไม่จำเป็น (ดีมานด์ทิพย์) ให้พักการดำเนินการไว้ก่อนจนกว่าประเทศจะมีความต้องการจริงในการใช้พลังงานเพิ่มเติม