วันนี้ (4 ธันวาคม) ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่พระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ พ.ศ. 2563 ความว่า
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่ทรงพระราชดำริเห็นว่าในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2563 เพื่อเป็นการแสดงพระมหากรุณาธิคุณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมควรพระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 175 และมาตรา 179 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรา 261 ทวิ วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2517 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ดังต่อไปนี้
คลิกอ่านรายละเอียด: http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/A/099/T_0001.PDF
ขณะที่ มติชนออนไลน์ รายงานว่า จะมีผู้ต้องขังได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำจำนวนประมาณ 30,000 รายจากเรือนจำทั่วประเทศ ตามมาตรา 6 นอกจากนี้ยังมีนักโทษเด็ดขาดที่ได้รับสิทธิเข้าหลักเกณฑ์ลดวันต้องโทษตามพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าวอีกกว่า 200,000 ราย สำหรับนักโทษรายสำคัญที่จะได้รับการลดโทษตามสัดส่วนคือ สรยุทธ สุทัศนะจินดา, ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้ลดโทษ และ บุญทรง เตริยาภิรมย์ ผู้ต้องขังคดีจำนำข้าว ได้รับการลดโทษตามสัดส่วน
ปัจจุบันกรมราชทัณฑ์มีผู้ต้องขังเด็ดขาดที่ควบคุมอยู่ประมาณรวม 247,557 ราย จากผู้ต้องขังทั้งหมด 344,161 ราย จากข้อมูลกรมราชทัณฑ์ ณ วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2563
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: